หากคุณสังเกตเห็นว่าขาของคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทจากโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังที่พบบ่อยที่สุดของผู้ป่วยเบาหวาน และยังเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่โรค “เท้าเบาหวาน”

ต่อไปนี้คือ 6 สัญญาณอันตรายที่มักถูกมองข้าม:

1. ไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิ
   เท้าหรือขามักเย็น ไม่สามารถแยกร้อนหรือเย็นได้ เมื่อแช่เท้าในน้ำอุ่นอาจไม่รู้สึก เนื่องจากการไหลเวียนเลือดไม่ดี ทำให้เส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลาย ส่งผลให้สูญเสียความสามารถในการรับรู้ความร้อนและเสี่ยงต่อการถูกน้ำร้อนลวก

2. ไม่รู้สึกเจ็บ
   ผู้ป่วยบางรายมีอาการชา ไม่รู้สึกเจ็บเมื่อมีบาดแผล ถูกของมีคม หรือโดนของร้อน ทำให้เกิดแผลโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของเท้าเบาหวาน

3. รู้สึกชา หรือเสียวซ่าเป็นระยะ
   รู้สึกเหมือนใส่ถุงเท้าตลอดเวลา หรือมีอาการเหมือนมีมดไต่ มักเริ่มจากปลายนิ้วเท้าแล้วค่อย ๆ ลามขึ้นมาถึงขาและมือ

4. ผิวแห้งและคัน
   เส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อถูกทำลาย ทำให้ขาเหงื่อน้อยลงหรือไม่หลั่งเหงื่อ ส่งผลให้ผิวแห้ง คัน และขาดความยืดหยุ่น

5. กล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินลำบาก
   กล้ามเนื้อขาหรือโคนขาเริ่มลีบ เดินหรือขึ้นบันไดยาก และอาจเสียสมดุล เนื่องจากเส้นประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวถูกกระทบ

6. ปวดแสบปวดร้อนรุนแรง
   รู้สึกปวดเหมือนถูกไฟช็อต ถูกเข็มทิ่ม หรือแสบไหม้ โดยเฉพาะเวลากลางคืน อาการปวดนี้มักรุนแรงจนรบกวนการนอน
   

นอกจากนี้ หากคุณมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น หนังตาตก หน้าเบี้ยว ความดันโลหิตต่ำ เดินไม่มั่นคง การได้ยินหรือการรับกลิ่นลดลง ระบบขับถ่ายผิดปกติ หรือปัญหาทางเพศ ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทจากโรคเบาหวานโดยเร็วที่สุด.