ชายผู้นี้อธิบายว่า เนื่องจากตนเองมีโรคประจำตัว การต้องเข้าห้องน้ำบ่อยในเวลางานจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อไม่นานมานี้ เรื่องราวการถูกเลิกจ้างกะทันหันของชายแซ่หลี่ จากมณฑลเจียงซู (ประเทศจีน) ได้สร้างความฮือฮาในหมู่ชาวเน็ต

ตามรายงานของสื่อ นายหลี่ถูกบริษัทเลิกจ้างด้วยเหตุผลที่หลายคนคาดไม่ถึง นั่นคือ เข้าห้องน้ำบ่อยและนานเกินไปในเวลาทำงาน

นายหลี่มักออกจากตำแหน่งงานเพื่อไปเข้าห้องน้ำเป็นประจำ แต่ละครั้งใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง และบางครั้งนานถึง 4 ชั่วโมงต่อครั้ง ในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 ถึงเดือนพฤษภาคม 2024 หรือภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน นายหลี่เข้าห้องน้ำในเวลางานทั้งหมด 14 ครั้ง โดยเฉลี่ยแล้วการ “ออกจากตำแหน่งงาน” แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง เมื่อรวมกันแล้วเวลาที่เขาใช้ในห้องน้ำในเดือนนั้นสูงถึงประมาณ 21 ชั่วโมง

จนถึงเดือนธันวาคมของปีนี้ เรื่องดังกล่าวจึงถูกเปิดเผยต่อสื่อ หลังจากสหพันธ์สหภาพแรงงานเซี่ยงไฮ้ยืนยันว่า นายหลี่ได้ยื่นฟ้องบริษัท โดยเห็นว่าตนถูกเลิกจ้างโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแรงงาน

เพื่อพิสูจน์เหตุผลอันชอบธรรมของการต้องออกจากตำแหน่งงานบ่อยครั้ง นายหลี่ได้ยื่นหลักฐานเป็นยารักษาโรค โดยเฉพาะโรคริดสีดวงทวาร รวมถึงเอกสารการผ่าตัดและการรักษาแบบผู้ป่วยในเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา จากเอกสารเหล่านี้ เขายืนยันว่าการต้องใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เกิดจากปัญหาสุขภาพ ไม่ใช่ความเกียจคร้านหรือการหลีกเลี่ยงงาน

หลังจากถูกเลิกจ้าง นายหลี่ได้ยื่นฟ้องบริษัท เรียกร้องค่าชดเชย ประมาณ 5,280 บาทไทย โดยให้เหตุผลว่าบริษัทได้ยกเลิกสัญญาจ้างงานฝ่ายเดียวโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บริษัทได้โต้แย้งอย่างหนัก โดยยื่นคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดต่อศาล ซึ่งบันทึกความถี่และระยะเวลาการเข้าห้องน้ำของนายหลี่ในเวลางานอย่างละเอียด

หลังจากพิจารณาหลักฐานทั้งหมด ศาลเห็นว่าเวลารวมที่นายหลี่อยู่ในห้องน้ำนั้นเกินกว่าความต้องการทางสรีรวิทยาปกติอย่างมาก นอกจากนี้ เอกสารทางการแพทย์ที่นายหลี่ยื่นให้ศาล ล้วนเป็นเอกสารที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่เขาได้เข้าห้องน้ำเป็นเวลานานหลายครั้งในช่วงเวลางาน อีกทั้งเขายังไม่ได้แจ้งบริษัทล่วงหน้าเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของตนเอง และไม่ได้ยื่นขอลาป่วยตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างงาน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทในจีนตกเป็นประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการควบคุมเวลาเข้าห้องน้ำของพนักงาน ในปี 2023 ชายอีกคนหนึ่งจากมณฑลเจียงซูเช่นกัน ถูกเลิกจ้างเนื่องจากออกจากตำแหน่งงานเพื่อไปเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง โดยครั้งที่นานที่สุดใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงในวันเดียว ซึ่งในกรณีนั้น ศาลก็มีคำตัดสินเข้าข้างบริษัทด้วยเหตุผลคล้ายคลึงกับกรณีของนายหลี่

ก่อนหน้านั้น ในปี 2016 คนขับรถรายหนึ่งได้ใช้เวลาเข้าห้องน้ำประมาณ 6 นาทีในช่วงเวลาที่ได้รับมอบหมายให้ไปรับผู้โดยสาร ระหว่างนั้นเขาพลาดสายเรียกลูกค้าถึง 5 สาย ทำให้คำสั่งงานถูกยกเลิก บริษัทจึงเลิกจ้างและเรียกร้องค่าเสียหาย ประมาณ 353 บาทไทย โดยศาลตัดสินให้คนขับรับผิดชอบบางส่วนและชดใช้ ประมาณ 33 บาทไทย

ในอีกด้านหนึ่ง มีหลายบริษัทจีนเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในประเด็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของแรงงาน เช่น การติดตั้งนาฬิกาจับเวลาในห้องน้ำเพื่อควบคุมระยะเวลาการใช้งานของพนักงาน ตามกฎหมายแรงงานจีน ลูกจ้างมีสิทธิได้รับการคุ้มครองด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในการทำงาน ซึ่งรวมถึงสิทธิในการใช้ห้องน้ำอย่างเหมาะสม

กรณีของนายหลี่ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตรายหนึ่งแสดงความคิดเห็นตรงไปตรงมาว่า
“ถ้าฉันเป็นเจ้านาย ฉันก็จะไล่เขาออกเหมือนกัน”

ขณะที่อีกความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า
“การที่เขาอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลาหลายชั่วโมงก็หมายความว่าคนอื่นต้องมาทำงานแทนเขา ซึ่งทำให้รู้สึกอึดอัดมาก”