ทำไม "อบไอน้ำมะนาว" ถึงช่วยได้?

มะนาวมีกรดซีตริกที่เป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยสลายคราบไขมันและคราบแคลเซียม/คราบคาวในระดับหนึ่ง เมื่อนำไปอุ่นให้เกิดไอน้ำ กรดจะทำงานร่วมกับความร้อน ทำให้คราบหลุดง่ายโดยไม่ต้องขัดแรง

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

• มะนาวสด 1–2 ลูก (หรือ น้ำมะนาว 2–3 ช้อนโต๊ะ)
• ถ้วยทนความร้อนหรือชามแก้ว (ทนน้ำเดือดและไมโครเวฟได้)
• น้ำสะอาดประมาณ 1 ถ้วย
• ผ้าไมโครไฟเบอร์ และฟองน้ำแบบนุ่ม
• แปรงขัดขนาดเล็ก (สำหรับซอก) — ใช้ถ้าจำเป็น

วิธีอบไอน้ำมะนาวขั้นสูง (ให้ได้ผลที่สุด)

1. ทำความสะอาดเบื้องต้น: เอาเศษอาหารหรือจานหมุนออกก่อน เพื่อให้ไอน้ำเข้าถึงผนังได้เต็มที่
2. เตรียมชามมะนาว: เติมน้ำประมาณ 1 ถ้วยลงในชามแก้ว ใส่น้ำมะนาวสด 2–3 ช้อนโต๊ะ หรือบีบน้ำมะนาวจากมะนาว 1 ลูก หากมีกลิ่นแรงลองเพิ่มมะนาวเป็น 2 ลูก
3. ตั้งเวลาอบ: นำชามวางตรงกลางไมโครเวฟ แล้วอุ่นด้วยกำลังสูง 3–5 นาที (ขึ้นกับกำลังเครื่อง) จนหม้อเริ่มเดือดและเกิดไอน้ำ — ห้ามเปิดขณะเครื่องกำลังทำงาน
4. พักให้ไอน้ำทำงาน: ปิดไมโครเวฟแต่ไม่เปิดฝาทันที ให้ไอน้ำอยู่ข้างใน 3–5 นาทีเพื่อให้กรดทำงานละลายคราบ
5. เช็ดออกแบบไม่ขัดแรง: เปิดฝา ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำอุ่นบิดหมาดเช็ดผนังและฐานที่เป็นคราบ คราบจะหลุดง่ายขึ้นมาก หากมีซอกมุมให้ใช้แปรงขัดขนาดเล็กถูเบา ๆ
6. ล้างจานหมุนและเช็ดอีกครั้ง: ล้างจานหมุนด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจาน แล้วเช็ดภายในอีกครั้งเพื่อเอากลิ่นมะนาวและคราบที่หลุดออก

สรุปเร็ว: น้ำ + มะนาว → อุ่น 3–5 นาที → พัก 3–5 นาที → เช็ดออกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์

ทริคเพิ่มประสิทธิภาพ (เมื่อคราบฝังแน่น)

• ถ้าคราบยังอยู่ ให้ผสมเบกกิ้งโซดาเล็กน้อยกับน้ำมะนาวเป็นพาสต์ ทาลงบนจุดคราบ ทิ้ง 10–15 นาที แล้วขัดเบา ๆ
• สำหรับคราบมันที่ฝังมาก ให้แช่ชิ้นถอดได้ (จานหมุน/ตะแกรง) ในน้ำส้มสายชูขาว 30–60 นาที แล้วล้าง
• อย่าใช้ของมีคมแรง ๆ ขูดผนังไมโครเวฟ เพราะอาจทำให้เคลือบภายในเสียหาย
• ถ้าจำเป็นให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไมโครเวฟที่ระบุว่าปลอดภัยกับเครื่อง

ข้อควรระวังด้านความปลอดภัย

วิธีป้องกันคราบฝังแน่นในอนาคต

• ใช้ฝาครอบหรือจานปิดอาหารทุกครั้งเมื่ออุ่น เพื่อลดการกระเด็น
• เช็ดภายในไมโครเวฟเป็นประจำหลังอุ่นอาหารหนัก ๆ
• วางถ้วยเบกกิ้งโซดาหรือถ้วยน้ำส้มสายชูไว้ในไมโครเวฟเมื่อไม่ได้ใช้เป็นวิธีดูดกลิ่น
• ตั้งกำหนดเช็คทำความสะอาดเชิงลึกทุก 1–2 สัปดาห์ (ขึ้นกับการใช้งาน)