สำหรับหลายคน การตื่นนอนแล้วรีบพับผ้าห่มหรือจัดเตียงให้เรียบร้อยถือเป็นนิสัยที่ดี สะท้อนถึงความเป็นระเบียบ วินัย และความสะอาด แต่ในความเป็นจริง ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและสุขอนามัยภายในบ้านกลับแนะนำว่า ไม่ควรพับผ้าห่มหรือเก็บเตียงทันทีหลังตื่นนอน เพราะพฤติกรรมที่ดูเหมือนดีนี้ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวโดยที่หลายคนไม่ทันสังเกต

เหตุผลสำคัญข้อแรกเกี่ยวข้องกับ ความชื้น ระหว่างการนอนหลับ ร่างกายของคนเราจะขับเหงื่อออกมาโดยไม่รู้ตัว แม้จะนอนในห้องแอร์ก็ตาม เหงื่อและไออุ่นจากร่างกายจะสะสมอยู่ในผ้าปูที่นอน หมอน และผ้าห่ม หากรีบพับผ้าห่มทันที ความชื้นเหล่านี้จะถูกกักไว้ ไม่สามารถระเหยออกได้ ส่งผลให้ผ้าห่มอับชื้นโดยไม่รู้ตัว

ความชื้นที่สะสมเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับ ไรฝุ่น แบคทีเรีย และเชื้อรา สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเหล่านี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้มากมาย โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ หอบหืด ผื่นคัน น้ำมูกเรื้อรัง หรืออาการคันตา สำหรับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผลกระทบอาจรุนแรงกว่าคนทั่วไป

อีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่ควรพับผ้าห่มทันที คือเรื่องของ การระบายอากาศ เตียงนอนควรมีเวลาหายใจหลังจากถูกใช้งานตลอดคืน การเปิดผ้าห่มออก ปล่อยให้ที่นอนสัมผัสอากาศ จะช่วยลดกลิ่นอับ และลดการสะสมของเชื้อโรค การจัดเตียงแบบเปิดทิ้งไว้สักระยะ อาจดูไม่เป็นระเบียบในสายตาบางคน แต่กลับดีต่อสุขภาพมากกว่าในระยะยาว

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หลังตื่นนอนควร เปิดผ้าห่มออกให้หมด เปิดหน้าต่างหรือม่านให้แสงแดดและอากาศถ่ายเทอย่างน้อย 20–30 นาที แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าสามารถช่วยลดจำนวนเชื้อโรคและไรฝุ่นได้ตามธรรมชาติ หากเป็นไปได้ ควรตากผ้าห่มหรือผ้าปูที่นอนเป็นประจำ เพื่อรักษาความสะอาดและสุขอนามัยที่ดี

นอกจากนี้ การไม่รีบพับผ้าห่มยังช่วยให้เรา ไม่เร่งรีบเกินไปในตอนเช้า การใช้เวลาเล็กน้อยกับตัวเอง เช่น ดื่มน้ำ ยืดเส้นยืดสาย หรือหายใจลึก ๆ ช่วยให้ร่างกายปรับตัวจากการนอนสู่การเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสมดุล ลดความเครียดและความตึงเครียดโดยไม่จำเป็น

แน่นอนว่า ความเป็นระเบียบก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ แต่ความสะอาดที่แท้จริงไม่ใช่แค่ภาพที่เห็นด้วยตา หากเป็นความสะอาดที่ดีต่อสุขภาพด้วย การจัดเตียงหลังจากปล่อยให้ผ้าห่มแห้งและระบายอากาศแล้ว ย่อมดีกว่าการพับทันทีเพียงเพื่อให้ดูเรียบร้อย

สรุปแล้ว การไม่พับผ้าห่มทันทีหลังตื่นนอนไม่ได้หมายถึงความขี้เกียจหรือไม่รักความสะอาด แต่เป็นความเข้าใจในธรรมชาติของร่างกายและสุขอนามัยภายในบ้าน การเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ นี้ อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ ทำให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น และส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง