ใครจะเชื่อว่า “ความใส่ใจสุขภาพ” อาจกลายเป็นดาบสองคม เมื่อเรื่องราวของ คู่สามีภรรยาวัยกลางคน คู่หนึ่ง กลายเป็นอุทาหรณ์ที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังทั้งสองถูกแพทย์วินิจฉัยว่า ป่วยเป็นมะเร็งพร้อมกัน ทั้งที่ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงชัดเจน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

แต่สิ่งเดียวที่ทั้งคู่ทำเหมือนกันมานานหลายปี กลับเป็นจุดที่แพทย์ตั้งข้อสังเกต และอาจเป็น ตัวการเงียบที่หลายครอบครัวมองข้าม

จุดร่วมเดียวที่เหมือนกันเป๊ะ

แพทย์ผู้ดูแลเปิดเผยว่า จากการซักประวัติอย่างละเอียด พบว่าทั้งคู่มีพฤติกรรม ดื่มน้ำจากถังพลาสติกขนาดใหญ่ (น้ำดื่มแกลลอน) เป็นประจำทุกวัน ใช้ถังแบบเดิมซ้ำ ๆ เก็บไว้ในบ้านเป็นเวลานาน และมักวางไว้ในบริเวณที่โดนแสงหรือความร้อน

แม้จะเป็นน้ำดื่มที่ซื้อจากร้านทั่วไป แต่ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่ “น้ำ” เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ ภาชนะพลาสติกและการใช้งานซ้ำเป็นเวลานาน โดยไม่รู้ถึงความเสี่ยงที่อาจแฝงอยู่

แพทย์เตือน: พลาสติกไม่ใช่เรื่องเล็ก

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า ภาชนะพลาสติกบางประเภท หากใช้งานซ้ำเป็นเวลานาน โดนความร้อน หรือเสื่อมสภาพ อาจมีการปล่อย สารเคมีบางชนิด ออกมาปนเปื้อนในน้ำ ซึ่งการได้รับในปริมาณน้อยแต่ต่อเนื่อง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง รวมถึงมะเร็งในระยะยาว

แพทย์ย้ำชัดว่า

“นี่ไม่ใช่การฟันธงว่าน้ำถังทำให้เกิดมะเร็งโดยตรง แต่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวัง โดยเฉพาะเมื่อใช้ซ้ำเป็นเวลาหลายปี”

ทำไมถึงน่ากลัว?

เพราะพฤติกรรมนี้เป็นสิ่งที่หลายบ้านทำทุกวันโดยไม่คิดอะไร

• ดื่มน้ำจากถังพลาสติก

• ใช้ถังเดิมซ้ำหลายปี

• วางไว้ในที่ร้อนหรือโดนแดด

• ไม่รู้ว่าถังเสื่อมสภาพแล้วหรือไม่

ทั้งหมดนี้อาจสะสมความเสี่ยงแบบเงียบ ๆ โดยที่ร่างกายไม่ส่งสัญญาณเตือนชัดเจนในช่วงแรก

ข้อแนะนำจากแพทย์

แพทย์แนะนำให้ประชาชน

• เลือกใช้น้ำดื่มจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน

• หลีกเลี่ยงการใช้ถังพลาสติกเก่า เสื่อม หรือมีรอยแตก

• ไม่วางน้ำดื่มในที่ร้อนหรือโดนแสงแดด

• พิจารณาเปลี่ยนภาชนะเป็นแก้วหรือสเตนเลสเมื่อทำได้

สรุปแบบสานนก

เรื่องนี้ไม่ใช่การสร้างความตื่นตระหนก แต่เป็น สัญญาณเตือนให้กลับมามองสิ่งใกล้ตัว เพราะบางครั้ง สิ่งที่เราคิดว่า “ปลอดภัยที่สุด” อาจซ่อนความเสี่ยงไว้โดยไม่รู้ตัว