“แห้ว” หรือที่หลายคนคุ้นเคยในของหวาน น้ำสมุนไพร และของกินเล่นหน้าร้อน คือพืชน้ำจืดที่ขึ้นตามบึง คู คลอง เนื้อกรอบ หวาน ชื่นใจ กินแล้วสดชื่น จนหลายคนเผลอ ปอกกินสด ๆ โดยไม่คิดอะไร เพราะเห็นว่าหน้าตาสะอาด ไม่มีคาวเหมือนเนื้อสัตว์

แต่แพทย์ออกมาเตือนแรงว่า แห้วดิบคือหนึ่งในอาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดปรสิต โดยเฉพาะหากมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติหรือแหล่งปลูกที่ไม่ได้ควบคุมมาตรฐาน

ทำไม “แห้ว” ถึงเสี่ยง ทั้งที่เป็นพืช?

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้ออธิบายว่า แห้วเป็น พืชน้ำจืดที่ฝังตัวอยู่ในดินโคลน ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของตัวอ่อนปรสิตหลายชนิด โดยเฉพาะพยาธิใบไม้และปรสิตจากสัตว์น้ำ

ปัญหาคือ ตัวอ่อนเหล่านี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ต่อให้ล้างน้ำหลายรอบ ก็อาจยังติดอยู่ในร่องผิวหรือเนื้อแห้วได้ หากกินแบบดิบหรือสุกไม่ทั่ว

มีคำเตือนจากแพทย์ที่ถูกพูดถึงอย่างมากว่า

“การกินแห้วดิบเพียง 1 ชิ้น อาจเทียบได้กับการรับตัวอ่อนปรสิตจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย”

แม้จะเป็นการเปรียบเปรย แต่สะท้อนความเสี่ยงได้ชัดเจน

ปรสิตจากแห้วดิบ เข้าร่างกายแล้วเกิดอะไร?

ในช่วงแรก ผู้ติดเชื้ออาจ ไม่รู้สึกผิดปกติทันที หรือมีแค่อาการเล็กน้อย เช่น

• ปวดท้อง ท้องอืด

• ผื่นคัน เหนื่อยง่าย

• เบื่ออาหาร น้ำหนักลด

แต่หากปล่อยไว้นาน ปรสิตบางชนิดอาจอพยพไปยัง ตับ ปอด หรือระบบย่อยอาหาร ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และเพิ่มความเสี่ยงโรคร้ายในระยะยาว

แพทย์เผยว่า มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ตรวจพบปรสิตในร่างกาย ทั้งที่ยืนยันว่า ไม่เคยกินเนื้อดิบ แต่ลืมไปว่าเคยกินแห้วดิบหรือพืชน้ำสด ๆ เป็นประจำ

ทำไมหลายคนยังชะล่าใจ?

เพราะแห้ว

• เป็นของกินพื้นบ้าน กินกันมานาน

• ดูสะอาด ไม่มีเลือด ไม่มีคาว

• เชื่อว่า “ล้างแล้วก็พอ”

• เห็นคนอื่นกินแล้วไม่เป็นอะไร

แต่แพทย์ย้ำว่า ความเสี่ยงไม่เท่ากันทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับแหล่งปลูก และการปนเปื้อนในน้ำและดิน

กินแห้วอย่างไรให้ปลอดภัย?

ข่าวดีคือ ไม่จำเป็นต้องเลิกกินแห้ว แต่ต้องกินให้ถูกวิธี

• หลีกเลี่ยงการกินแห้วดิบ

• ควรต้ม นึ่ง หรือเชื่อมให้สุกทั่วถึง

• เลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้

• หากกินดิบแล้วมีอาการผิดปกติ ควรพบแพทย์

สรุปแบบสานนก

แห้วไม่ใช่อาหารอันตราย แต่ ความอันตรายอยู่ที่ “ความดิบ” และ “ความชะล่าใจ” ของคนกิน ของกรอบหวานที่คิดว่าใส ๆ อาจซ่อนภัยเงียบจากปรสิตไว้โดยไม่รู้ตัว