ปรากฏการณ์ทางนิติวิทยาศาสตร์ที่หายากอย่างยิ่ง ซึ่งในภาษาแพทย์เรียกว่า “extrusión post mortem” ได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เนื่องจากเกิดขึ้นในกรณีที่หญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต และร่างกายเข้าสู่กระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติ

ตามคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญ เมื่อการเสียชีวิตเกิดขึ้น ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะหยุดทำงาน และในระยะต่อมา กระบวนการย่อยสลายจะทำให้เกิดการสะสมของก๊าซภายในช่องท้อง ความดันภายในร่างกายจึงค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลต่ออวัยวะภายในบางส่วน รวมถึงมดลูก ซึ่งอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างและแรงดันที่เพียงพอจะทำให้ทารกในครรภ์ถูกดันออกมาได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำของมนุษย์แต่อย่างใด

ในแวดวงนิติวิทยาศาสตร์ ปรากฏการณ์นี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “coffin birth” และถือเป็นเหตุการณ์ที่พบได้ยากมาก ผู้เชี่ยวชาญศึกษากรณีลักษณะนี้เพื่อทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของร่างกายผู้เสียชีวิตที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ รวมถึงเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์สภาพศพและช่วงเวลาการเสียชีวิตอย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

มีรายงานกรณีศึกษาหนึ่งที่ได้รับการบันทึกไว้ หญิงตั้งครรภ์ประมาณ 7 เดือนถูกพบหลังจากเสียชีวิตไปแล้วหลายวัน ก่อนเริ่มกระบวนการตรวจทางนิติเวช พบว่าทารกได้ปรากฏอยู่นอกบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายหลังความตาย ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะยังมีชีวิต

ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า แม้ปรากฏการณ์นี้จะฟังดูน่าตกใจสำหรับคนทั่วไป แต่ในทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นกระบวนการตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ในบางเงื่อนไขเท่านั้น และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย การศึกษาเรื่องนี้จึงมีความสำคัญต่อทั้งวงการแพทย์และนิติวิทยาศาสตร์ ในการทำความเข้าใจร่างกายมนุษย์อย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น