3 วิธีมองคนให้แม่นยำเสมอ หากนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

เมื่อมองคน ควรเริ่มต้นจากความจริงใจและจิตใจที่มุ่งสู่ความดี เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมและปรับตัวเข้าหากันได้อย่างกลมกลืน ชีวิตจะเบาสบายและผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อจิตใจของเราสงบ บริสุทธิ์ และมุ่งไปสู่สิ่งดีงาม
ต่อไปนี้คือ 3 วิธีมองคนที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต และยังคงถูกต้องเสมอจนถึงปัจจุบัน

วิธีที่ 1: มองคนจากทุกมุมมอง

การมองคนแบบผิวเผินหรือเพียงด้านเดียว ยากที่จะสะท้อนนิสัยและตัวตนที่แท้จริงของใครคนหนึ่งได้ทั้งหมด
ดังนั้น ควรมองคนจากหลายมุม หลายแง่ และหลายจุดยืน เพื่อให้ได้ภาพรวมและการประเมินที่ถูกต้องที่สุด

รูปลักษณ์ภายนอกของแต่ละคนอาจสะท้อนจิตใจภายในได้ส่วนหนึ่ง เพราะจิตใจย่อมส่งผลต่อบุคลิกและท่าทาง
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้น หากต้องการรู้ว่าคน ๆ นั้นดีหรือร้าย มีเมตตาหรือโหดร้าย จำเป็นต้องดูจากการกระทำและการปฏิบัติต่อผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน บ้านใกล้เรือนเคียง เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา หรือผู้ใต้บังคับบัญชา

วิธีที่ 2: มองคนด้วยความจริงใจและจิตใจที่มุ่งสู่ความดี

แก่นแท้ของมนุษย์นั้นแทบไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งที่เปลี่ยนไปอาจเป็นเพียงพฤติกรรมภายนอกบางอย่าง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และสังคม

ในชีวิตประจำวัน มนุษย์เรามักสวม “หน้ากาก” เพื่อรับบทบาทต่าง ๆ และแสดงบนเวทีชีวิต
ด้วยเหตุนี้ คนไม่ดีอาจสวมหน้ากากของคนดี คนชั่วอาจสวมหน้ากากของผู้มีศีลธรรม คนลุ่มหลงกิเลสอาจสวมหน้ากากของผู้สุภาพ เรียบร้อย และมีคุณธรรม
สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้สังคมค่อย ๆ เสื่อมถอย และก่อให้เกิดผลกระทบมากมายเกินคาดคิด

วิธีที่ 3: มองคนผ่านกาลเวลา

กาลเวลาจะทำให้ทุกสิ่งในชีวิตกระจ่างชัด และธรรมชาติแท้จริงของมนุษย์ก็เช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไป เราจะมองเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้นเอง

ดังนั้น การพบหรือพูดคุยกันเพียงไม่กี่ครั้งแรก ความรู้สึกและการรับรู้ของเรามักยังไม่แม่นยำ ไม่ควรรีบด่วนตัดสินหรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ
เราจะเข้าใจกันอย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อได้ใช้ชีวิตและผูกพันกันเป็นเวลานาน

มีสุภาษิตกล่าวไว้ว่า
“คบกันนานจึงรู้ใจ อยู่กันนานจึงรู้คน”
ซึ่งยังคงเป็นความจริงเสมอ แม้ในสังคมยุคปัจจุบัน

การมองคนด้วยเวลา ไม่รีบร้อนตัดสิน และมีสติในการปฏิบัติต่อผู้อื่น คือหลักสำคัญที่จะชี้นำชีวิตไปสู่ความสงบและงดงาม ซึ่งทุกคนควรนำไปปรับใช้ในชีวิตของตนเอง