กรณีของนักเรียนชายวัย 15 ปีในไต้หวัน กลายเป็นอุทาหรณ์ด้านสุขภาพที่ได้รับความสนใจอย่างมาก หลังเจ้าตัวมีอาการปวดท้องรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาแบบเร่งด่วนในโรงพยาบาล ผลการตรวจของแพทย์สร้างความตกใจไม่น้อย เมื่อพบว่าเขามีภาวะไขมันสะสมในตับขั้นรุนแรง ทั้งที่อายุยังน้อย

แพทย์ผู้ดูแลเผยว่า เด็กชายมีภาวะน้ำหนักเกิน และจากการตรวจอัลตราซาวนด์พบว่าตับมีลักษณะสีซีดผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณของการสะสมไขมันในระดับสูง จึงสรุปการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไขมันพอกตับในระยะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวได้

จากการซักประวัติด้านพฤติกรรมการกิน พบว่าเด็กชายรายนี้บริโภค ไก่ทอด และ ชานมไข่มุก เป็นประจำแทบทุกวัน ขณะที่ผักและผลไม้แทบไม่อยู่ในเมนูอาหารเลย แพทย์ระบุว่าอาหารทั้งสองชนิดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งการสะสมไขมันในตับ

อาหารทอดมีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ในปริมาณสูง ส่งผลให้ตับต้องทำงานหนัก ขณะที่เครื่องดื่มหวานอย่างชานมไข่มุกมีน้ำตาลจำนวนมาก เมื่อน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายเกินความจำเป็น ตับจะเปลี่ยนส่วนเกินให้กลายเป็นไขมันและสะสมไว้โดยตรง

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตับแนะนำว่า ควรลดการบริโภคอาหารทอดและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรเลือกวิธีปรุงที่ใช้น้ำมันน้อย เช่น หม้อทอดไร้น้ำมัน และเลือกเครื่องดื่มสูตรน้ำตาลต่ำหรือไม่เติมน้ำตาล

สำหรับกรณีนี้ แพทย์ได้วางแผนควบคุมอาหาร ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และให้การรักษาเพื่อฟื้นฟูการทำงานของตับอย่างต่อเนื่อง

เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อาหารยอดฮิตในชีวิตประจำวันอาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น การเลือกรับประทานอาหารให้สมดุลตั้งแต่อายุยังน้อยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม