ผักถือเป็นอาหารหลักที่ขาดไม่ได้ในทุกมื้อ เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ในความเป็นจริง ผักที่เราซื้อจากตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตอาจไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด ปัญหาการใช้สารเคมีทางการเกษตร เช่น ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเร่งโต ยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก โดยเฉพาะผักบางชนิดที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสูง จนพ่อค้าแม่ค้ามือเก๋าหลายคนถึงกับหลีกเลี่ยง แม้จะดูสด สวย และขายดีเพียงใดก็ตาม

ผักชนิดแรกที่มักถูกพูดถึงคือ ผักกาดขาว ผักกาดขาวเป็นผักที่ปลูกง่าย โตเร็ว และเป็นที่นิยมในหลายเมนู แต่ด้วยความที่ใบอ่อนและมีพื้นที่ผิวมาก ทำให้ศัตรูพืชเข้าทำลายได้ง่าย เกษตรกรบางรายจึงใช้ยาฆ่าแมลงในปริมาณสูง หากล้างไม่สะอาด สารเคมีอาจตกค้างอยู่ตามซอกใบ พ่อค้าแม่ค้าที่มีประสบการณ์มักเลือกผักกาดขาวจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น หรือหลีกเลี่ยงการนำมาบริโภคบ่อยเกินไป

ชนิดที่สองคือ คะน้า คะน้าเป็นผักยอดนิยมในร้านอาหาร เพราะดูเขียว สด และกรอบอร่อย แต่เบื้องหลังความสวยงามนั้น คะน้ามักถูกเร่งให้โตด้วยสารเคมีเพื่อให้ได้ผลผลิตเร็ว ลำต้นอวบ ใบเขียวเข้ม หากคะน้าดูสวยเกินจริง ไม่มีรอยแมลงเลย นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการใช้สารเคมีในปริมาณมาก

ผักชนิดที่สามคือ ถั่วฝักยาว ถั่วฝักยาวมีแนวโน้มสะสมสารเคมีสูง เนื่องจากเป็นพืชที่แมลงชอบกัดกิน เกษตรกรจึงมักฉีดยาฆ่าแมลงบ่อยครั้ง สารเคมีสามารถซึมเข้าสู่ฝักได้ง่าย พ่อค้าแม่ค้ามือเก๋ามักเลือกถั่วที่มีรอยตำหนิเล็กน้อย แทนถั่วที่ดูสมบูรณ์แบบเกินไป

ชนิดที่สี่คือ ผักชี แม้จะเป็นผักโรยหน้า ใช้ในปริมาณไม่มาก แต่ผักชีกลับเป็นหนึ่งในผักที่ตรวจพบสารตกค้างบ่อยครั้ง เนื่องจากปลูกในระยะเวลาสั้นและต้องการใบสวย เขียวสด การล้างแบบธรรมดาอาจไม่เพียงพอ ต้องแช่น้ำและล้างหลายครั้งจึงจะช่วยลดความเสี่ยงได้

ผักชนิดสุดท้ายคือ กะหล่ำปลี กะหล่ำปลีมีลักษณะเป็นหัวแน่น ซ้อนหลายชั้น ทำให้สารเคมีสามารถสะสมอยู่ด้านในได้ง่าย แม้จะปอกใบด้านนอกทิ้งแล้ว แต่สารตกค้างอาจยังคงอยู่ในชั้นใน พ่อค้าแม่ค้าที่รู้เท่าทันมักเลือกกะหล่ำปลีจากแหล่งปลูกปลอดสาร หรือหลีกเลี่ยงการบริโภคดิบ

แม้ว่าผักทั้ง 5 ชนิดนี้จะพบได้ทั่วไปในตลาด แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องงดกินโดยสิ้นเชิง สิ่งสำคัญคือการเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ล้างผักอย่างถูกวิธี แช่น้ำเกลือหรือน้ำด่างทับทิมก่อนปรุง และหากเป็นไปได้ ควรเลือกผักปลอดสารหรือผักออร์แกนิก แม้ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่ากับสุขภาพในระยะยาว เพราะการกินผักให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรกเสมอ