หลายครอบครัวใช้เครื่องซักผ้าเป็นประจำทุกวัน แต่กลับไม่รู้ว่า ภายในเครื่องมี “ชิ้นส่วนเล็ก ๆ” ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อความสะอาดของเสื้อผ้าและอายุการใช้งานของเครื่อง หากละเลยไม่ดูแล ชิ้นส่วนนี้อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และกลิ่นอับโดยไม่รู้ตัว นั่นคือ ตัวกรองเศษผงและสิ่งสกปรกของเครื่องซักผ้า ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เปิดออกมาทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง

ตัวกรองนี้มีหน้าที่ดักจับเศษผ้า เส้นใย ผงซักฟอกที่ตกค้าง รวมถึงสิ่งสกปรกเล็ก ๆ ที่หลุดออกมาจากเสื้อผ้าในระหว่างการซัก เมื่อใช้งานไปนาน ๆ หากไม่เคยทำความสะอาด เศษเหล่านี้จะสะสมจนเกิดกลิ่นเหม็นอับ และอาจทำให้การระบายน้ำทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้เสื้อผ้าซักแล้วไม่หอม แถมยังอาจมีคราบสกปรกติดกลับมาอีกด้วย

หลายคนเข้าใจผิดว่า เสื้อผ้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดจากผงซักฟอกหรือสภาพอากาศชื้นเพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริง สาเหตุสำคัญมักมาจากเครื่องซักผ้าที่ไม่สะอาด โดยเฉพาะตัวกรองที่ไม่ได้รับการดูแล เมื่อแบคทีเรียและเชื้อราสะสมมากขึ้น กลิ่นอับก็จะถ่ายเทไปติดเสื้อผ้าได้ง่าย แม้จะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มมากแค่ไหนก็ตาม

การทำความสะอาดตัวกรองไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงเปิดฝาตามตำแหน่งที่คู่มือเครื่องระบุ นำตัวกรองออกมาล้างด้วยน้ำสะอาด หากมีคราบฝังแน่น สามารถใช้แปรงขนนุ่มช่วยขัดเบา ๆ จากนั้นผึ่งให้แห้งก่อนใส่กลับเข้าไป เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดกลิ่นอับ ทำให้เสื้อผ้าสะอาดและมีกลิ่นหอมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดแล้ว การทำความสะอาดตัวกรองเป็นประจำยังช่วย ยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า ลดความเสี่ยงของการอุดตัน ปั๊มน้ำทำงานได้ดีขึ้น และลดโอกาสการซ่อมแซมที่ไม่จำเป็นในอนาคต ถือเป็นการดูแลเครื่องซักผ้าแบบง่าย ๆ แต่คุ้มค่าอย่างมาก

สรุปแล้ว เพียงเปิดทำความสะอาดชิ้นส่วนเล็ก ๆ นี้เดือนละครั้ง ก็สามารถแก้ปัญหาเสื้อผ้ามีกลิ่นอับ ทำให้เครื่องซักผ้าสะอาด ทำงานมีประสิทธิภาพ และใช้งานได้นานขึ้น ใครที่ยังไม่เคยทำ ถือว่าเป็นเคล็ดลับบ้าน ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะความสะอาดที่แท้จริง เริ่มต้นจากการดูแลเครื่องใช้ใกล้ตัวนั่นเอง