สดชื่นแต่อันตราย! 6 กลุ่มคนที่ไม่ควรดื่ม "น้ำมะนาว" เสี่ยงสุขภาพพังมากกว่าที่คิด

น้ำมะนาวเป็นเครื่องดื่มดับกระหายยอดฮิตที่หลายคนหลงรัก แต่รู้หรือไม่ว่าภายใต้ความเปรี้ยวสดชื่นนั้น มีคนบางกลุ่มที่ได้รับคำแนะนำว่าควร "เลี่ยง" หรือจำกัดการดื่มอย่างเคร่งครัด เพราะกรดธรรมชาติในมะนาวอาจส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างรุนแรง

1. ผู้ที่มีภาวะกรดไหลย้อน หากคุณมีอาการแสบร้อนกลางอก (Heartburn) บ่อยครั้ง การดื่มน้ำมะนาวจะไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัว ทำให้กรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาได้ง่ายขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนไปดื่มน้ำเปล่าหรือชาสมุนไพรแทน

2. ผู้ที่มีปัญหาเรื่องฟันและเคลือบฟัน  ระบุว่ากรดในมะนาวมีฤทธิ์กัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้ฟันบาง เสี่ยงต่ออาการเสียวฟันและฟันผุ เคล็ดลับ: หากต้องการดื่มควรใช้หลอดดูดและบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทันที แต่ "ห้ามแปรงฟันทันที" เพราะจะทำให้เคลือบฟันที่อ่อนตัวเสียหายหนักกว่าเดิม

3. ผู้ที่กำลังรับประทานยาบางชนิด ดร.ซาราห์ วิลเล็ตต์ นักโภชนาการจาก King’s College London เตือนว่า ผู้ที่ทานยาลดความดัน, ยาขับปัสสาวะ หรือยาแก้ปักลุ่ม NSAIDs ควรระวัง เพราะกรดมะนาวอาจรบกวนการดูดซึมยาหรือเพิ่มการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร

4. ผู้ป่วยโรคนิ่วในไต ผู้ที่เป็นนิ่วชนิดแคลเซียมออกซาเลตควรจำกัดการดื่ม เนื่องจากมะนาวมีสารออกซาเลตธรรมชาติที่อาจกระตุ้นการตกผลึกของนิ่วได้

5. ผู้ที่มีระบบทางเดินอาหารอ่อนแอ สำหรับผู้ป่วยโรคกระเพาะ หรือโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) น้ำมะนาวอาจทำให้เกิดอาการปวดเกร็ง ท้องอืด หรือท้องเสีย หากอยากดื่มจริงๆ ควรเจือจางน้ำให้มากๆ และ "ห้ามดื่มตอนท้องว่าง"

6. ผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำและสมดุลอิเล็กโทรไลต์ มะนาวมีฤทธิ์ขับปัสสาวะอ่อนๆ หากดื่มมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายเสียน้ำจนเป็นตะคริวหรืออ่อนเพลียได้ โดยเฉพาะในนักกีฬาหรือผู้ที่อยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
แม้ "น้ำมะนาว" จะมีวิตามินสูงและทำง่าย แต่การบริโภคที่มากเกินไปอาจให้โทษมากกว่าประโยชน์ ควรดื่มในปริมาณที่พอดีเพื่อให้ร่างกายได้รับความสดชื่นอย่างปลอดภัย