เมื่อไม่นานมานี้ ความคิดเห็นของประชาชนชาวไทยต้องสั่นคลอนอีกครั้งจากคดีฆาตกรรมที่เกิดจากความหึงหวงอย่างรุนแรงของชายคนหนึ่งที่สังเกตเห็นว่าแฟนสาวของเขากำลังถูกชายอื่นตามตื้อ ตามรายงานของ The Thaiger เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม นอกสถานีตำรวจกะตู จังหวัดภูเก็ต

จากรายงานระบุว่า ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อ สุวิทย์ โนคเกต อายุ 38 ปี ไม่พอใจที่นายทิติพงษ์ อายุ 32 ปี ก็แอบชอบแฟนสาวของเขาเช่นกัน จึงได้นัดพบกันในช่วงพักกลางวันเพื่อเคลียร์เรื่องรักสามเส้า โดยหญิงสาวที่เชื่อว่าเป็นแฟนสาวของสุวิทย์ก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การสนทนาได้บานปลายกลายเป็นการโต้เถียงอย่างรุนแรง ภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นแสดงให้เห็นว่า ทิติพงษ์ แย่งกระเป๋าของสุวิทย์ ซึ่งมีรายงานว่าภายในกระเป๋ามีปืน ทำให้สุวิทย์ต้องวิ่งหนี 

ทิติพงษ์ชักปืนออกมาและยิงสุวิทย์สองนัด สุวิทย์พยายามข้ามถนนไปยังสถานีตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ถูกรถชน เหยื่อล้มลงหมดสติอยู่หน้าสถานีตำรวจ พบว่านอนแน่นิ่งอยู่ในกองเลือด แฟนสาวของสุวิทย์เห็นกำลังกอดทิติพงษ์และขอร้องให้เขาหยุดการทำร้ายร่างกาย

หลังจากนั้น ทิติพงษ์ขับรถกระบะสีขาวของเขาออกไป ตำรวจติดตามรถคันดังกล่าวไปจนพบใกล้กับน้ำตกกะตู แต่ทิติพงษ์ปฏิเสธที่จะมอบตัว

นายทิติพงษ์ยังคงแสดงพฤติกรรมไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงยางรถของผู้ต้องสงสัยและจับกุมตัวได้ในบ่ายวันเดียวกันนั้น ตามรายงานของตำรวจ เหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้นที่ทางเข้าซอยตรงข้ามสถานีตำรวจกะตู

นายสุวิทย์ โนคเกต อายุ 38 ปี เสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส  

ยังไม่มีการยื่นฟ้องอย่างเป็นทางการต่อผู้ต้องสงสัยชื่อทิติพงษ์ อย่างไรก็ตาม ภายใต้มาตรา 288 แห่งประมวลกฎหมายอาญาของไทย ผู้ต้องสงสัยอาจถูกตั้งข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา ซึ่งมีโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก 15 ถึง 20 ปี

ขณะเดียวกัน เมื่อเหตุการณ์นี้ถูกรายงานในสื่อ ก็ทำให้หลายคนรู้สึกหวาดผวา บางคนตกใจเพราะมันคล้ายกับฉากในภาพยนตร์แอ็คชั่นฮอลลีวูด ส่วนคนอื่นๆ รู้สึกเสียใจกับการกระทำที่หุนหันพลันแล่นและไม่รอบคอบของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะความประมาทเพียงชั่วขณะ พวกเขาจึงสูญเสียทุกอย่างไป 

"ผู้ชายสองคนแย่งผู้หญิงคนเดียวกัน แล้วตอนนี้เธอก็กำลังจะไปเป็นของคนอื่น บางทีนี่อาจเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่ได้คาดคิด" ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความคิดเห็น 

“มันคุ้มค่าหรือเปล่าที่คนคนหนึ่งต้องเสียชีวิต อีกคนต้องติดคุก หรือถึงขั้นต้องโทษประหารชีวิต เพียงเพราะความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ในความสัมพันธ์โรแมนติก?” มีคนเขียนไว้