ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการโภชนาการและการแพทย์ให้ความสนใจกับ ผักวอเตอร์เครส (Watercress) หรือที่รู้จักในชื่อ ผักสลัดน้ำ / ผักกาดน้ำ มากขึ้น หลังมีงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า ผักชนิดนี้อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วย ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งบางชนิด

วอเตอร์เครสเป็นผักใบเขียวที่ขึ้นในแหล่งน้ำสะอาด มีรสเผ็ดอ่อน ๆ นิยมรับประทานสดหรือปรุงสุกเล็กน้อย และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผักที่มีความหนาแน่นทางโภชนาการสูง

งานวิจัยพบสารสำคัญที่น่าสนใจ

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการระบุว่า วอเตอร์เครสมีสารสำคัญ เช่น

• ไอโซไทโอไซยาเนต (Isothiocyanates)

• ฟีนเอทิลไอโซไทโอไซยาเนต (PEITC)

• วิตามินซี วิตามินเอ และโฟเลต

สารเหล่านี้มีบทบาทช่วยลดการอักเสบ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยยับยั้งการทำงานของเซลล์ที่ผิดปกติในระยะเริ่มต้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่นักวิจัยสนใจนำมาศึกษาในบริบทของการป้องกันโรคมะเร็ง

ไม่ใช่ยา แต่เป็น “อาหารเสริมสุขภาพ”

แพทย์ย้ำว่า แม้วอเตอร์เครสจะมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ แต่ ไม่สามารถใช้แทนการรักษาทางการแพทย์ได้ การบริโภคผักชนิดนี้ควรเป็นส่วนหนึ่งของการรับประทานอาหารที่หลากหลายและสมดุล เพื่อช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของโรคในระยะยาว

ประโยชน์ด้านสุขภาพอื่น ๆ

นอกจากประเด็นด้านมะเร็งแล้ว วอเตอร์เครสยังมีประโยชน์หลายด้าน เช่น

• ช่วยบำรุงสายตา

• ดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

• ช่วยระบบย่อยอาหาร

• แคลอรีต่ำ เหมาะกับผู้ควบคุมน้ำหนัก

วิธีรับประทานให้ได้คุณค่าสูงสุด

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรล้างผักให้สะอาด และหลีกเลี่ยงการปรุงด้วยความร้อนสูงนานเกินไป เพราะอาจทำให้สารอาหารบางชนิดสูญเสียไป การรับประทานสดหรือผัด–ลวกแบบสุกพอดี จะช่วยคงคุณค่าทางโภชนาการได้ดีกว่า

สรุป

ผักวอเตอร์เครสอาจไม่ใช่ “ยาวิเศษ” แต่ถือเป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ หากรับประทานอย่างเหมาะสมและควบคู่กับวิถีชีวิตที่ดี ก็อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง รวมถึงมะเร็งในระยะยาวได้