ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 50 ปีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการปวดตึงบริเวณสีข้าง อาการในระยะแรกไม่รุนแรงนัก แต่เมื่อแพทย์สั่งตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ก็พบสิ่งผิดปกติที่น่าตกใจ นั่นคือ มีสายสวนทางการแพทย์ 2 เส้นอยู่ภายในร่างกายของเขานานเกือบ 10 ปี

จากการตรวจพบว่าสายสวนทั้งสองยังคงอยู่ในระบบทางเดินปัสสาวะ ทีมแพทย์จึงรีบทำการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อนำสิ่งแปลกปลอมออก โชคดีที่สายสวนยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่แตกหักและไม่มีนิ่วเกาะ หลังการผ่าตัด อาการของผู้ป่วยค่อยๆ ดีขึ้น และสุขภาพโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย

จากการสอบถามประวัติ ย้อนกลับไปกว่าสิบปีก่อน ชายคนนี้เคยเข้ารับการผ่าตัดรักษาภาวะการกดทับทางเดินปัสสาวะ และได้รับการใส่สายสวนเพื่อช่วยระบาย เมื่อออกจากโรงพยาบาล แพทย์ได้กำชับให้กลับมาตรวจตามนัดเพื่อถอดสายสวนออก แต่เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจและความประมาท เมื่อเห็นว่าสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เขาจึงไม่ได้กลับไปตรวจอีก ทำให้สายสวนทั้งสองอยู่ในร่างกายมานานหลายปีโดยไม่รู้ตัว

แพทย์อธิบายว่า สายสวนชนิดนี้มีไว้ใช้งานชั่วคราวเท่านั้น โดยปกติไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานเกินหนึ่งปี หากปล่อยเกินกำหนด อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น การเกิดนิ่วเกาะที่ปลายสาย การอุดตัน การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลต่อการทำงานของไต และอาจนำไปสู่ภาวะไตวายได้หากไม่ตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ

กรณีนี้จึงถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ป่วยหลังการรักษาหรือผ่าตัดทางการแพทย์ว่า การปฏิบัติตามคำแนะนำและการมาตรวจตามนัดของแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แม้ร่างกายจะยังไม่แสดงอาการผิดปกติชัดเจนก็ตาม เพราะความประมาทอาจทำให้ความเสี่ยงร้ายแรงซ่อนอยู่ในร่างกายเป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัว