คุณควรปิดประตูห้องน้ำเมื่อไม่ได้ใช้งานหรือไม่? นี่ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่มีหลักการที่ควรปฏิบัติจริง ๆ และหลายคนกำลังทำผิดอยู่

หลังจากใช้ห้องน้ำเสร็จ คุณมักจะเปิดประตูทิ้งไว้หรือปิดเอาไว้? หลายคนอาจไม่เคยคิดถึงคำถามนี้มาก่อน และมักเลือกทำในสิ่งที่สะดวกที่สุด
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่ใช้น้ำบ่อยและสัมผัสกับสิ่งสกปรกอยู่เสมอ จึงมีโอกาสเกิดความอับชื้น กลิ่นไม่พึงประสงค์ และการสะสมของเชื้อโรคได้ง่าย การปิดหรือเปิดประตูห้องน้ำหลังใช้งานจึงเกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพของคนในบ้าน ความสะอาดของที่อยู่อาศัย และคุณภาพอากาศภายในบ้าน แล้วแบบไหนดีกว่ากัน? มาพูดคุยเรื่องนี้กันวันนี้

ในเชิงปฏิบัติ หลังจากใช้ห้องน้ำแล้ว ควรปิดประตูห้องน้ำจะดีกว่า ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

ประการแรก: ป้องกันความชื้นและเชื้อโรคแพร่กระจายออกไปภายนอก
ห้องน้ำเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นอับ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน แม้จะทำความสะอาดทุกวัน ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ อีกทั้งการใช้น้ำเป็นประจำทำให้ห้องน้ำมีความชื้นสูง สภาพแวดล้อมเช่นนี้เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย

ปัจจุบันที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่มักมีพื้นที่จำกัด ห้องน้ำจึงมักอยู่ใกล้ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว หากเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้หลังใช้งาน กลิ่น ความชื้น และเชื้อโรคจะกระจายไปทั่วบ้าน ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมโดยรวม และไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว การปิดประตูห้องน้ำหลังใช้งานจึงช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้

ประการที่สอง: ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่า
ห้องน้ำเป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่มักเก็บของใช้ส่วนบุคคล เช่น ชุดชั้นในและอุปกรณ์ต่าง ๆ หากมีแขกมาเยี่ยมบ้านแล้วประตูห้องน้ำเปิดอยู่ อาจทำให้เห็นของภายใน ซึ่งสร้างความอึดอัดและไม่สะดวกใจ นอกจากนี้ โถสุขภัณฑ์ ไม้ถูพื้น หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดอื่น ๆ ก็มักไม่สวยงามนัก ทำให้บ้านดูรก หากปิดประตูห้องน้ำไว้ แม้แขกจะผ่านไปมาก็จะไม่รู้สึกอึดอัด จึงช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี

แม้ว่าการปิดประตูห้องน้ำจะดีกว่าการเปิดไว้ แต่หลายคนกังวลว่าการปิดประตูจะทำให้การระบายอากาศไม่ดี กลิ่นอับและเชื้อโรคสะสมมากขึ้น ความจริงแล้ว เพียงแค่เปิดหน้าต่างก็เพียงพอ หากห้องน้ำมีหน้าต่าง ควรเปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเท แต่ถ้าเป็นห้องน้ำที่ไม่มีหน้าต่าง ควรเปิดพัดลมดูดอากาศหลังใช้งานประมาณ 10 นาที เพื่อช่วยลดกลิ่น ความชื้น และปัญหาอื่น ๆ

เพื่อให้ห้องน้ำสะอาดและไม่มีกลิ่นอับ ควรใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์เป็นประจำ และเช็ดน้ำที่กระเด็นบนพื้นทันที กระดาษชำระที่ใช้แล้วควรกดชักโครกทิ้ง เพื่อลดการเกิดกลิ่นและการสะสมของเชื้อโรค ซึ่งอาจปนเปื้อนไปทั่วบ้านได้ กระดาษชำระสมัยใหม่สามารถละลายในน้ำได้ดี และท่อในอาคารรุ่นใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยลดปัญหาการอุดตัน อย่างไรก็ตาม ในอาคารเก่าที่ไม่สามารถทิ้งกระดาษลงชักโครกได้ ควรใช้ถังขยะที่มีฝาปิดและเปลี่ยนถุงขยะบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนภายในห้องน้ำ

หากบทความนี้เป็นประโยชน์ อย่าลืมกดถูกใจและแชร์ให้เพื่อน ๆ และครอบครัวนะคะ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนค่ะ