หัวไชเท้ามีหลายชนิด แต่ที่พบได้บ่อยและได้รับความนิยมมากที่สุดคือ หัวไชเท้าขาว ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป หัวไชเท้าขาวขึ้นชื่อเรื่องคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะสรรพคุณในการบำรุงปอด

หัวไชเท้าขาว 100 กรัม ให้วิตามินซีประมาณ 30 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าสูงกว่าผลไม้หลายชนิด นอกจากนี้ยังมีโปรตีน ไขมัน แร่ธาตุอย่างธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย

ในขณะเดียวกัน ขิง เป็นสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน มีคุณสมบัติให้ความอบอุ่น มักใช้เป็นเครื่องเทศ ปรุงอาหาร หรือชงเป็นเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย ขิงอุดมด้วยสารอาหารและสารต้านการอักเสบ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงสุขภาพโดยรวม

แม้ขิงและหัวไชเท้าจะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพทั้งคู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานในช่วงเวลาที่แตกต่างกันของวัน คือ ขิงเหมาะกับช่วงเช้า ส่วนหัวไชเท้าควรกินในช่วงเย็นหรือกลางคืน แล้วเหตุผลคืออะไร?

ทำไมควรกินขิงในตอนเช้า?

ตามหลักแพทย์แผนตะวันออก ช่วงเช้าหลังตื่นนอน กระเพาะอาหารยังว่างและมีพลังงาน “หยิน” สะสมอยู่มาก การรับประทานขิงซึ่งมีฤทธิ์ร้อน จะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ขับไล่ความเย็น ทำให้พลังงาน “หยาง” ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายอบอุ่นและสดชื่น

ช่วงเช้ายังเป็นเวลาที่ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด การกินขิงในเวลานี้จึงช่วยบำรุงร่างกายและส่งเสริมสุขภาพได้อย่างเต็มที่

ในทางกลับกัน ช่วงเย็นและกลางคืนเป็นช่วงที่พลังงานหยินเริ่มเด่นขึ้น พลังงานหยางจะค่อย ๆ ลดลง หากกินขิงในช่วงนี้ อาจกระตุ้นหยางมากเกินไป จนรบกวนสมดุลตามธรรมชาติของร่างกาย

ข้อมูลจากการประเมินในปี 2021 ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า การดื่มน้ำขิงอุ่นในตอนเช้าสามารถช่วยลดอาการท้องอืด ลดการอักเสบ และบรรเทาอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น

นอกจากนี้ ขิงยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงหวัดและไข้หวัดใหญ่ และยังมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ทำให้รูปร่างกระชับ หน้าท้องแบนราบขึ้นได้

ทำไมควรกินหัวไชเท้าในตอนเย็น?

หัวไชเท้าขาวมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร แต่ก็อาจทำให้เกิดแก๊สหรืออาการผายลมได้ง่าย ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้รับประทานในช่วงเย็นหรือกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สะดวกในระหว่างวัน

หัวไชเท้าสามารถกินสดหรือปรุงสุกก็ได้ หัวไชเท้าสดมีรสเผ็ดเล็กน้อย ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย เพิ่มความอยากอาหาร ลดอาการไอและเสมหะ รวมถึงช่วยให้การย่อยอาหารดีขึ้น

หัวไชเท้ายังมีปริมาณน้ำสูง ช่วยบรรเทาอาการผิวแห้งในช่วงอากาศแห้ง และมีสรรพคุณในการบำรุงพลังชี่ ตามหลักแพทย์แผนตะวันออก การกินหัวไชเท้าในฤดูหนาวช่วยปรับสมดุลหยิน-หยางภายในร่างกายได้ดี

ในฤดูหนาว คนเรามักกินอาหารที่ให้พลังงานสูงเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ซึ่งอาจทำให้เกิดความร้อนสะสมในร่างกาย หัวไชเท้าซึ่งมีฤทธิ์เย็น จะช่วยปรับสมดุลและลดความร้อนภายในได้

จากมุมมองของแพทย์แผนปัจจุบัน หัวไชเท้ามีใยอาหาร น้ำมันมัสตาร์ด และเอนไซม์อะไมเลส ซึ่งช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ส่งเสริมการย่อยอาหาร เพิ่มความอยากอาหาร และช่วยลดอาการไอ ละลายเสมหะ

นอกจากนี้ หัวไชเท้าขาวยังมีวิตามินเอ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรค ชะลอความเสื่อมของหลอดเลือด และช่วยชะลอกระบวนการแก่ของร่างกาย