สาวอยู่หอคนเดียว ติดในห้องน้ำเกือบขิต! ทุบกระจกแตกก็ออกไม่ได้ รอดตายหวุดหวิดเพราะ "ฟีเจอร์ไร้ค่า" ในมือถือ

เรื่องราวที่ฟังดูเหมือนตลกร้าย แต่อันตรายถึงชีวิต! สาววัยทำงานอยู่คนเดียว ประตูล็อกพังติดอยู่ในห้องน้ำ ทุบกระจกจนมือแตกก็ยังออกไม่ได้ สุดท้ายสิ่งที่ช่วยชีวิตเธอไว้ คือฟีเจอร์ในโทรศัพท์มือถือที่หลายคนมองว่า "น่ารำคาญ" และมักจะกดปิดทิ้งไป

เช้าวันธรรมดา ที่เกือบกลายเป็นวันสุดท้าย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ "เยือง" (Duong) สาววัย 29 ปี ในกรุงฮานอย เธออาศัยอยู่คนเดียวและใช้ชีวิตอย่างเป็นระเบียบ เช้าวันหนึ่งขณะเตรียมตัวไปทำงาน เธอเดินเข้าห้องน้ำตามปกติ แต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา "ประตูห้องน้ำเก่าๆ" เจ้ากรรมดันเกิดล็อกตาย ลูกบิดด้านในพังเสียหาย ไม่ว่าจะหมุน งัด หรือดึงอย่างไรประตูก็ไม่ขยับ

ห้องน้ำเล็กๆ ที่ปิดทึบ ไม่มีใครอยู่ข้างนอกคอยช่วย เธอพยายามหาทางออกอยู่นานเกือบชั่วโมง จนตัดสินใจใช้ไม้ตายสุดท้ายคือ "ทุบกระจกบานเกล็ด" บนประตูจนแตก แต่โชคร้ายที่ช่องว่างนั้นเล็กเกินกว่าจะลอดตัวออกไปได้

รอดตายเพราะ "ผู้ช่วยอัจฉริยะ" ที่หลายคนมองข้าม

ในวินาทีที่เริ่มสิ้นหวัง โทรศัพท์มือถือของเธอวางอยู่นอกห้องน้ำ เอื้อมมือไปไม่ถึง เยืองนึกขึ้นได้ว่าโทรศัพท์ของเธอมีฟีเจอร์ "ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียง" (Voice Assistant)

เธอตัดสินใจเอาหน้าไปแนบกับช่องกระจกที่ทุบไว้ แล้วตะโกนสุดเสียงเรียก "Hi Bixby" (ระบบสั่งงานด้วยเสียงของ Samsung) หลังจากตะโกนอยู่หลายครั้ง ในที่สุดระบบก็ตอบรับ! เธอรีบสั่งให้โทรศัพท์โทรหาพี่สาวทันที เมื่อพี่สาวรับสายและรู้เรื่อง จึงรีบตามคุณพ่อมาช่วยพังประตูและช่วยชีวิตเธอได้ทันเวลา

เยืองยอมรับว่า ถ้าวันนั้นปิดฟีเจอร์นี้ไป หรือเรียกไม่ติด เธออาจจะต้องติดอยู่ในนั้นเป็นวันๆ หรืออาจถึงสัปดาห์ จนกว่าจะมีใครเอะใจว่าเธอหายตัวไป

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ! เคส "ติดห้องน้ำ" เกิดขึ้นทั่วโลก

เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่เวียดนาม แต่เป็นฝันร้ายของคนอยู่คนเดียวทั่วโลก:

• ที่กรุงเทพฯ (ปี 2022): หญิงวัย 54 ปี ติดอยู่ในห้องน้ำนานถึง 3 วัน เพราะลูกบิดประตูพัง เธอรอดมาได้เพราะพี่สาวเอะใจที่ติดต่อไม่ได้จึงแจ้งตำรวจ
• ที่สิงคโปร์: สาววัย 31 ปี ติดในห้องน้ำคอนโดนาน 4 วัน จนพ่อแม่ติดต่อไม่ได้ ต้องให้ญาติและตำรวจมางัดห้องเข้าไปช่วย

บทเรียนราคาแพง: อย่าปิด "Siri / Google Assistant" ทิ้ง!

หลายคนมักปิดฟีเจอร์ "หวัดดี Siri" (Hey Siri) หรือ "Ok Google" เพราะกลัวเปลืองแบตเตอรี่ หรือรำคาญที่มันชอบเด้งขึ้นมาเอง แต่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ล้มในห้องน้ำ, ประตูล็อก, หรือเกิดอุบัติเหตุจนขยับตัวไปหยิบมือถือไม่ได้ ฟีเจอร์เหล่านี้เปรียบเสมือน "ถุงลมนิรภัย" หรือปุ่มฉุกเฉินประจำตัว

วิธีตั้งค่าโทรศัพท์ให้พร้อมช่วยชีวิต (ทำเดี๋ยวนี้!)

1. เปิดใช้งานคำสั่งเสียง: เข้าไปตั้งค่า Siri (iOS), Google Assistant (Android) หรือ Bixby ให้รองรับการเรียกใช้งานแม้ในขณะที่หน้าจอล็อกอยู่
2. ตั้งค่าเบอร์ฉุกเฉิน: เมมชื่อพ่อแม่ แฟน หรือเพื่อนสนิท ให้สั้นและเรียกง่าย หรือตั้งเป็น Emergency Contact
3. ซ้อมสั่งงาน: ลองฝึกพูดคำสั่งง่ายๆ เช่น "โทรหาแม่", "โทรหา 191", "ส่งข้อความหาแฟนว่าช่วยด้วย" หรือ "เปิดไฟฉาย"
4. ตำแหน่งวางมือถือ: สำหรับคนอยู่คนเดียว เวลาเข้าห้องน้ำควรวางมือถือไว้ในระยะที่ "เสียงไปถึง" ไม่ควรวางไว้ไกลเกินไป

เทคโนโลยีมีไว้เพื่อความสะดวก แต่ในยามคับขัน มันอาจเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยลมหายใจของคุณได้ อย่าลืมเปิดใช้งานไว้ และหมั่นตรวจสอบลูกบิดประตูห้องน้ำกันด้วย!