ผักต้มเป็นเมนูพื้นฐานที่หลายครอบครัวกินแทบทุกวัน แต่ไม่น้อยคนกลับเจอปัญหา ผักสีหม่น ไม่เขียวสด เนื้อเละ หรือรสชาติไม่อร่อย ทั้งที่ตั้งใจทำอาหารเพื่อสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการชี้ว่า สาเหตุสำคัญไม่ได้อยู่ที่ชนิดผักเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ “วิธีลวก” และรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม

หากรู้เทคนิคที่ถูกต้อง เพียงปรับขั้นตอนเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ผักเขียวสด กรอบอร่อย และยังช่วยลดสารตกค้างได้อีกด้วย

เริ่มต้นจากการเลือกผักให้ถูกต้อง
ควรเลือกผักที่ยังอ่อน สดใหม่ ไม่มีใบเหลืองหรือช้ำ จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดหลายครั้ง เพื่อขจัดดินและสิ่งสกปรก แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนนำไปลวก

วิธีลวกผักให้สีสวย ไม่เสียคุณค่า
เตรียมน้ำในหม้อให้เดือดจัด โดยใช้น้ำในปริมาณมาก หากผักเยอะควรเพิ่มน้ำให้เพียงพอ เมื่อน้ำเดือดแล้ว ให้เติมเกลือประมาณครึ่งช้อนชา ซึ่งจะช่วยรักษาสีเขียวของผัก จากนั้นใส่ผักลงไปและคนเบา ๆ ให้ผักจมน้ำทั่วกัน

เมื่อน้ำเดือดอีกครั้ง ให้ลวกต่อเพียงไม่กี่นาที แล้วตักผักขึ้นทันที ห้ามลวกนานเกินไป เพราะความร้อนสูงจะทำให้วิตามินละลายออกไปกับน้ำ

เคล็ดลับสำคัญ: เติมน้ำส้มสายชูข้าวหรือน้ำมะนาว
หนึ่งในเทคนิคที่แม่บ้านมืออาชีพนิยมใช้ คือการเติมน้ำส้มสายชูข้าวประมาณ 2 ช้อนชา ลงในหม้อน้ำก่อนลวกผัก กรดอ่อน ๆ จะช่วยให้ผักคงสีเขียวสด ลดกลิ่นเหม็นเขียว และช่วยชะล้างสารตกค้าง หากไม่มีน้ำส้มสายชู สามารถใช้น้ำมะนาวแทนได้

ใช้ไฟแรง และอย่าปิดฝาหม้อ
การลวกผักควรใช้ไฟแรงตลอดเวลา เพื่อให้ผักสุกเร็วและไม่เปลี่ยนสี หากใช้ไฟอ่อน ผักจะคล้ำ สุกไม่สม่ำเสมอ และสูญเสียคุณค่าทางอาหารมากขึ้น

แช่น้ำเย็นทันทีหลังลวก
หลังจากยกผักขึ้นจากหม้อ ให้นำไปแช่น้ำเย็นจัดหรือน้ำผสมน้ำแข็งประมาณ 1 นาที วิธีนี้จะช่วยหยุดความร้อน ทำให้ผักยังกรอบ ไม่เละ และสีไม่ซีด

ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า การลวกผักให้ถูกวิธี ไม่เพียงช่วยให้อาหารดูน่ากินและรสชาติดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาวิตามินและแร่ธาตุไว้ได้มากขึ้นอีกด้วย เพียงใส่ใจในขั้นตอนเล็ก ๆ ผักต้มธรรมดาก็สามารถกลายเป็นเมนูสุขภาพคุณภาพสูงได้ทุกมื้อ