เมื่อไม่นานมานี้ วิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของชีวิตในบ้านพักคนชราหรูแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้รับความสนใจอย่างมากในโซเชียลมีเดียของประเทศ วิดีโอแสดงให้เห็นผู้สูงอายุสี่คนนอนอยู่บนเตียงในห้องพักขนาดเล็กของบ้านพักคนชรา ในจำนวนนี้ มีเพียงนางหวัง (อายุ 91 ปี) เท่านั้นที่สามารถดูแลตัวเองได้

ผู้ที่ถ่ายวิดีโอได้พูดคุยกับคุณหวังและทราบว่าเธออาศัยอยู่ที่นั่นมาสองปีแล้ว เมื่อถามถึงความรู้สึกเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในบ้านพักคนชรา คุณหวังกล่าวว่า"ตลอดทั้งวัน มีแค่สองอย่างให้ทำ คือ กินและนอน"

ตามตารางเวลา ผู้สูงอายุที่นี่รับประทานอาหารเช้าเวลา 5:40 น. อาหารกลางวันเวลา 10:40 น. และอาหารเย็นเวลา 16:40 น. โดยอาหารจะเหมือนกันทุกวัน คือ ไข่ตุ๋นกับเนื้อบดและผักสองชนิด

ในบ้านพักคนชราทั้งหมด มีผู้สูงอายุเพียงสามคนเท่านั้นที่ออกไปเดินเล่นในทางเดินเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ ส่วนใหญ่ร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะนอนอยู่บนเตียงรอผู้ดูแลได้ ยกเว้นสมาชิกในครอบครัวบางคนที่มาดูแลผู้สูงอายุและรับประทานอาหารด้วยเป็นครั้งคราว นอกนั้นก็ได้รับอาหารจากเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราเป็นหลัก

ค่าใช้จ่ายรายเดือนสำหรับการพักอาศัยในห้องพักสำหรับสี่คนในบ้านพักคนชราแห่งนี้คือ 6,000 หยวน (ประมาณ 21 ล้านดองเวียดนาม) เนื่องจากสภาพร่างกายและความต้องการการดูแลของแต่ละคนแตกต่างกัน ค่าใช้จ่ายจึงผันผวน แต่ขั้นต่ำจะอยู่ที่ 5,000 หยวน (ประมาณ 17.5 ล้านดองเวียดนาม)

หลายคนจินตนาการว่าในบ้านพักคนชรา ผู้สูงอายุจะรู้สึกเหงาลดลงเพราะมีเพื่อนวัยเดียวกันไว้พูดคุยและเป็นเพื่อน นอกจากนี้ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้อีกด้วย แต่ในวิดีโอเหล่านี้ บรรยากาศและชีวิตในบ้านพักคนชราอาจไม่ "สมบูรณ์แบบ" อย่างที่คิด บ้านพักคนชราบางแห่งมีลักษณะคล้ายโรงพยาบาลมากกว่า และเน้นการดูแลประจำวันสำหรับผู้สูงอายุที่อ่อนแอและเจ็บป่วย

เมื่อไม่นานมานี้ ข่าวที่ว่า "ชายวัย 73 ปี ถูกพยาบาลในบ้านพักคนชราทำร้ายจนลูกตาแตก" กลายเป็นประเด็นร้อนและก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างร้อนแรงในหมู่ชาวเน็ตจีน

นายดูอาศัยอยู่ในเมืองต้าเหลียน ขณะที่ลูกชายทำงานตลอดทั้งปีในเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากเขาป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ จึงถูกส่งไปอยู่ที่บ้านพักคนชราชื่อดังแห่งหนึ่งในท้องถิ่น ซึ่งไม่ใช่บ้านพักคนชราทั่วไป แต่เป็นบ้านพักคนชราเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ โดยมีค่าใช้จ่ายรายเดือน 8,000 หยวน (ประมาณ 28 ล้านดองเวียดนาม) ซึ่งเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดในเมือง

วันหนึ่ง ลูกชายของนายดูได้รับโทรศัพท์จากบ้านพักคนชราแจ้งว่าพยาบาลได้ทำร้ายพ่อของเขาโดยไม่ตั้งใจขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า แพทย์ตรวจสอบภายหลังพบว่าลูกตาข้างขวาที่แตกนั้นเกิดจากการกระทำของแพทย์เอง หลังจากการสอบสวนของตำรวจ พบว่าบุคลากรทางการแพทย์คนดังกล่าวทำร้ายร่างกายชายชรา

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้คนจำนวนมากขึ้นเริ่มเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับแนวคิดที่ว่าวัยชราจะต้องอยู่กับลูกหลานเสมอไป แนวโน้มในปัจจุบันคือผู้สูงอายุจำนวนมากย้ายไปอยู่บ้านพักคนชรา ทั้งเพื่อลดภาระของลูกหลานและเพื่อมีเพื่อนอยู่ด้วยทุกวัน นี่คือข้อดีที่ปฏิเสธไม่ได้ของการอาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา

อย่างไรก็ตาม ทุกทางเลือกย่อมมีข้อเสีย และชีวิตในบ้านพักคนชราก็อาจแตกต่างกันอย่างมาก การดูแลผู้สูงอายุในวัยเกษียณเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเสมอ เมื่อตัดสินใจ อย่ามองโลกในแง่ดีเกินไป และควรคิดให้ถี่ถ้วน