“ผู้ตาย” เมื่อ 5 ปีก่อนปรากฏตัวกลับมาอีกครั้ง ความจริงจึงถูกเปิดเผยอย่างรวดเร็ว

วันที่ 17/12/2025 ตำรวจได้รับแจ้งจากทางการท้องถิ่นว่า มีหญิงคนหนึ่งมาขอยกเลิกมรณบัตร และบังเอิญว่าชื่อและข้อมูลครอบครัวของเธอตรงกับบุคคลที่เคยถูกแจ้งเสียชีวิตเมื่อปี 2020

หลังจากตรวจสอบ พบว่าหญิงคนดังกล่าวคือคนเดียวกับผู้ที่ถูกแจ้งว่าเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน และเคยได้รับเอกสารรับรองการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ เห็นได้ว่ามีความผิดปกติหลายจุด ทางตำรวจจึงโอนคดีให้หน่วยงานสอบสวนดำเนินการต่อ

เผยแผน “แกล้งตาย” ที่เกือบสมบูรณ์แบบ

จากการสืบสวนพบว่า ปี 2017 เธอหย่ากับสามี และในช่วงนั้นได้ทำงานไกลบ้าน พร้อมทำประกันชีวิต 4 กรมธรรม์จากบริษัทประกันชีวิตต่าง ๆ

ปี 2020 เมื่อพบว่าป่วยเป็นมะเร็ง และมีความเครียดสะสม จึงเกิดความคิด “แกล้งตาย” เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่และรับเงินประกัน เธอได้ปรึกษาแม่ซึ่งในตอนแรกไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายก็ยอมช่วย

ทั้งสองร่วมกันวางแผนอย่างแนบเนียน วันหนึ่งเธอดื่มยานอนหลับและทำทีเหมือนล้มเสียชีวิตกะทันหัน จากนั้นครอบครัวได้จัดพิธีศพปลอมอย่างลับที่สุด มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ความจริง

กลางดึกวันนั้น เธอฟื้นขึ้นและถูกพาไปซ่อนตัว ก่อนจะย้ายไปทำงานที่พื้นที่อื่น ทำให้ไม่มีใครสงสัยว่าเป็นการ “ตายปลอม”

วันถัดมา แม่ของเธอไปแจ้งมรณบัตรอย่างเป็นทางการ และทำเรื่องขอรับเงินประกันจากหลายบริษัท รวมเป็นจำนวนเงินมหาศาล จากนั้นเงินถูกส่งต่อเพื่อให้เธอเอาไปลงทุน

แผนแตก

หลังใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนนาน 5 ปี ช่วงปลายปี 2025 เธอกลับมาที่บ้านเกิดและทำเรื่องขอยกเลิกมรณบัตร ทำให้เรื่องทั้งหมดถูกเปิดโปง ระหว่างให้ปากคำ เธอยอมรับว่าเพราะป่วยหนัก เคยคิดฆ่าตัวตาย แต่คิดถึงแม่จึงเลือก “แกล้งตาย” เพื่อเอาเงินประกันแล้วหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่

หน่วยงานสอบสวนได้ออกคำสั่งดำเนินคดีในข้อหา “ทุจริตในธุรกิจประกันภัย” และควบคุมตัวทั้งสองแม่ลูกเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย คดียังอยู่ระหว่างการขยายผล แต่แน่นอนว่านี่จะเป็น “บทเรียนราคาแพง” สำหรับทั้งคู่

ตำรวจเตือนประชาชนว่า อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์ระยะสั้นจนต้องแลกด้วยศักดิ์ศรีและเสรีภาพของตนเอง การฉ้อโกงประกันไม่เพียงทำให้บริษัทเสียหาย แต่ยังทำลายคุณค่ามนุษยธรรมของระบบประกัน ทุกคนควรเคารพกฎหมาย เพราะเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดย่อมถูกเปิดโปง และท้ายที่สุดต้องรับโทษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้