ไม่ใช่สามีทุกคนที่ควรเข้าไปในห้องคลอดพร้อมภรรยา‼️

หลายคนเชื่อว่าการให้สามีเข้าไปอยู่ในห้องคลอดจะช่วยให้คุณแม่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และได้รับกำลังใจมากขึ้น แต่ในความเป็นจริง จากประสบการณ์ในโรงพยาบาลสูติกรรม พบว่ามีเหตุการณ์ชวนทั้งสงสารและอึดอัดเกิดขึ้นไม่น้อย เมื่อสามีได้เห็นกระบวนการคลอดลูกด้วยตาตัวเอง

เรื่องหนึ่งที่เคยถูกแชร์อย่างกว้างขวางคือกรณีของ “เสี่ยวเจียง” คุณแม่มือใหม่ที่เลือกห้องคลอดแบบครอบครัว เพื่อให้สามีอยู่เคียงข้างตลอดช่วงเวลาคลอด ตอนแรกสามีก็ตอบตกลงทันที เพราะคิดว่านี่คือการแสดงความห่วงใยและความเข้าใจในความเจ็บปวดที่ภรรยาต้องเผชิญ

อย่างไรก็ตาม เมื่อการเจ็บครรภ์รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ทารกกำลังคลอดออกมา สามีกลับรับแรงกดดันทางจิตใจไม่ไหว เขามีอาการหน้ามืด หมดสติ และล้มลงบนพื้นห้องคลอด ทำให้ทีมแพทย์ต้องรีบนำตัวเขาออกไปปฐมพยาบาล พยาบาลคนหนึ่งยังเผยว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมีสามีหลายคนที่ “ใจไม่แข็งพอ” จนเป็นลมในห้องคลอด

ผลกระทบทางจิตใจหลังคลอดที่หลายคนมองไม่เห็น

หลังการคลอด ความเปลี่ยนแปลงในครอบครัวของเสี่ยวเจียงเริ่มชัดเจนขึ้น สามีกลายเป็นคนเงียบขรึม พูดน้อย และหลีกเลี่ยงการดูแลภรรยาและลูก ภาระการเลี้ยงลูกแทบทั้งหมดตกอยู่ที่เสี่ยวเจียงเพียงคนเดียว เมื่อเด็กอายุได้หกเดือน ความเหนื่อยล้าและอ่อนล้าทั้งกายใจทำให้เธอต้องพูดคุยกับสามีอย่างจริงจัง

ในตอนนั้นเอง สามีจึงยอมรับว่าภาพภรรยาขณะคลอดลูกได้กลายเป็นความทรงจำฝังใจ ทุกครั้งที่เห็นภรรยาหรือลูก เขาจะรู้สึกคลื่นไส้ เครียด และหวาดกลัว สุดท้ายตามคำแนะนำของเพื่อน ๆ เขาเข้ารับการบำบัดทางจิตใจ และใช้เวลานานกว่าสองปีจึงค่อย ๆ กลับมาสมดุล และทำหน้าที่สามีและพ่อได้อย่างแท้จริง

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ: ทำไมไม่ใช่สามีทุกคนที่เหมาะจะเข้าไปในห้องคลอด

ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติกรรมและจิตวิทยาหลายคนชี้ว่า การให้สามีเข้าไปในห้องคลอดไม่ได้ให้ผลดีเสมอไป

ประการแรก ระหว่างการคลอด คุณแม่จำเป็นต้องมีสมาธิสูงสุดในการทำตามคำแนะนำของแพทย์ ความวิตกกังวล ความตื่นตระหนก หรือการควบคุมอารมณ์ไม่ได้ของสามี อาจทำให้คุณแม่เสียสมาธิและส่งผลต่อกระบวนการคลอด

ประการที่สอง การได้เห็นภาพเลือด ความเจ็บปวด และแรงกดดันสูงในห้องคลอด อาจก่อให้เกิดภาวะกระทบกระเทือนทางจิตใจ (trauma) ต่อผู้ชายบางคน โดยเฉพาะผู้ที่อ่อนไหวหรือไม่ได้เตรียมใจมาก่อน

ประการที่สาม ในกรณีฉุกเฉิน หากสามีเกิดปัญหาสุขภาพขึ้นในห้องคลอด ทีมแพทย์จะต้องแบ่งกำลังไปดูแลทั้งคุณแม่และญาติ เพิ่มภาระโดยไม่จำเป็น

ไม่มีคำตอบเดียวที่ถูกต้องสำหรับทุกคู่

ในความเป็นจริง มีสามีจำนวนไม่น้อยที่หลังจากเห็นภรรยาคลอดลูกแล้ว ยิ่งรักและเห็นคุณค่าของภรรยามากขึ้น แต่ก็มีอีกหลายกรณีที่ต้องเผชิญกับปัญหาทางจิตใจยาวนาน

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจให้สามีเข้าไปในห้องคลอด คู่สามีภรรยาควรพูดคุยกันอย่างละเอียด ประเมินความพร้อมทางจิตใจของสามี และปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล ที่สำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัยและสภาพจิตใจที่มั่นคงของคุณแม่ควรได้รับการให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

การคลอดลูกคือช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ใช่ทุกคนจำเป็นต้องเห็นทุกวินาทีของช่วงเวลานั้น เพื่อพิสูจน์ความรักและความรับผิดชอบ