ชายวัย 58 ปี กินกระเทียมสดทุกเช้า ติดต่อกัน 6 เดือน ผลตรวจสุขภาพทำแพทย์ประหลาดใจ

ทุกเช้า นายหลี่อวี้ (นามสมมติ) วัย 58 ปี พนักงานในนิคมอุตสาหกรรม จะกินอาหารเช้าพร้อมกระเทียมสด 1 กลีบเป็นประจำ นิสัยนี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณครึ่งปีก่อน หลังจากที่เขาอ่านข้อมูลด้านสุขภาพและพบว่ากระเทียมเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

นายหลี่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมาโดยตลอด เขารับประทานผักผลไม้หลากหลาย ลดอาหารมัน งดแอลกอฮอล์ บุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนเป็นเวลา นอกจากนั้น เขายังพยายามเสริมอาหารที่ดีต่อสุขภาพเข้าไปในชีวิตประจำวัน

ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา นายหลี่มักกินบะหมี่หรือก๋วยเตี๋ยวในตอนเช้า พร้อมกระเทียมสด 1 กลีบ เขากล่าวว่า กระเทียมช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร และยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อัลลิซิน วิตามิน และแร่ธาตุ

เมื่อไม่นานมานี้ นายหลี่เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีตามโครงการของบริษัท ผลตรวจทำให้แพทย์รู้สึกประหลาดใจ แม้เขาจะอยู่ในวัยกลางคน แต่ความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ และไม่พบโรคเรื้อรังใด ๆ

แพทย์อธิบายว่า กระเทียมมีสารอัลลิซิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเลือด งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การบริโภคกระเทียมสดวันละครึ่งถึงหนึ่งกลีบ อาจช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ได้ประมาณ 10% และช่วยดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Nutrition ซึ่งวิเคราะห์งานวิจัยกว่า 22 ฉบับ พบว่า การกินกระเทียมสดอย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลรวม ไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ปรับสมดุลความดันโลหิต ลดความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือด และช่วยชะลอความเสื่อมของหลอดเลือด

นอกจากนี้ สารในกระเทียมยังมีคุณสมบัติต้านไวรัส เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น เบาหวาน มะเร็ง รวมถึงโรคเกี่ยวกับความจำ

อย่างไรก็ตาม แพทย์ย้ำว่า สุขภาพที่ดีไม่ได้มาจากอาหารเพียงชนิดเดียว ผลลัพธ์ที่นายหลี่ได้รับ ยังเป็นผลจากการใช้ชีวิตอย่างมีวินัย ควบคู่กับการกินอาหารที่สมดุลและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

---

ผู้หญิงวัย 56 ปี ทดลอง “แปะกระเทียมที่ฝ่าเท้า” นาน 6 เดือน ผลตรวจสุขภาพดีขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

นางหลิวเหม่ยฮวา วัย 56 ปี ทำงานเป็นพนักงานธนาคาร ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน จนมีอาการปวดหลังและไหล่เป็นประจำ วันหนึ่งเธอได้ยินคนรู้จักเล่าต่อกันว่า การแปะกระเทียมที่ฝ่าเท้าก่อนนอนอาจช่วยฟื้นฟูร่างกายได้

ด้วยความอยากลอง และเพราะกระเทียมหาได้ง่าย เธอจึงทดลองทำทุกคืน โดยหั่นกระเทียมสดแปะไว้ที่ฝ่าเท้า แม้ช่วงแรกจะรู้สึกแสบและมีกลิ่นแรง แต่เธอก็ทำต่อเนื่อง

หลังผ่านไป 6 เดือน เธอสังเกตว่าหลับได้ดีขึ้น อาการปวดเมื่อยลดลง ผิวพรรณดูสดใสขึ้น เมื่อตรวจสุขภาพร่วมกับเพื่อน ผลตรวจกลับพบว่า ไขมันในเลือด น้ำตาลในเลือด และค่าการทำงานของตับดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้แพทย์รู้สึกแปลกใจ

แพทย์อธิบายว่า กระเทียมมีสารอัลลิซินที่ช่วยต้านการอักเสบและปรับสมดุลการเผาผลาญ ขณะที่ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน ฝ่าเท้าเป็นจุดรวมของเส้นลมปราณสำคัญ การกระตุ้นบริเวณนี้อาจช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต

อย่างไรก็ตาม แพทย์เน้นย้ำว่า ผลลัพธ์ที่ดีอาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งการดูแลตนเอง การปรับพฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิตที่สมดุล ไม่ควรพึ่งพาวิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว และควรสังเกตอาการผิวหนัง รวมถึงตรวจสุขภาพเป็นประจำ

บทสรุปสำคัญ: สุขภาพที่ดีต้องอาศัยการดูแลแบบองค์รวม อาหารธรรมชาติอาจช่วยเสริมได้ แต่พื้นฐานที่แท้จริงยังคงเป็นการใช้ชีวิตอย่างมีสติและอิงหลักวิทยาศาสตร์