หลายคนยังเก็บข้าวเย็นผิดวิธี โดยไม่รู้ว่ากำลังทำร้ายสุขภาพตัวเองอยู่ทุกวัน

หลายคนยังเก็บข้าวเย็นผิดวิธี โดยไม่รู้ว่ากำลังทำร้ายสุขภาพตัวเองอยู่ทุกวัน

ในยุคที่คนส่วนใหญ่นิยมเก็บอาหารไว้กินในวันถัดไป การเก็บ “ข้าวเย็น” หรือข้าวที่เหลือจากมื้อเย็นไว้ในตู้เย็นดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่าหากเก็บผิดวิธี ข้าวที่คิดว่าปลอดภัยนั้นอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเตือนว่า ข้าวที่ปรุงสุกแล้วควรเก็บเข้าตู้เย็นภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทาน หากปล่อยไว้นานกว่านั้น โดยเฉพาะในอุณหภูมิห้อง เชื้อแบคทีเรีย Bacillus cereus ซึ่งมักพบในข้าวสุก อาจเจริญเติบโตและสร้างสารพิษที่ทนความร้อนได้ แม้จะนำไปอุ่นซ้ำก่อนรับประทาน เชื้อพิษนี้ก็ยังไม่สลายไปหมด

นอกจากนี้ การเก็บข้าวในภาชนะที่ไม่ปิดสนิท หรือเก็บไว้นานเกิน 1-2 วัน ยังเพิ่มความเสี่ยงให้เชื้อโรคเติบโตมากขึ้น และเมื่อรับประทานเข้าไปอาจเกิดอาการอาหารเป็นพิษ ปวดท้อง คลื่นไส้ หรือท้องเสียได้ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ

คำแนะนำในการเก็บข้าวเย็นอย่างปลอดภัย

ควรเก็บข้าวที่เหลือในภาชนะปิดสนิทและสะอาด

เก็บในตู้เย็นทันทีหลังจากข้าวเย็นลง (ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมงหลังหุง)

หากต้องการนำมารับประทานซ้ำ ควรอุ่นให้ร้อนทั่วถึงอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส

ไม่ควรเก็บข้าวสุกไว้นานเกิน 24-48 ชั่วโมง

เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อย ก็สามารถป้องกันอันตรายจากการรับประทานข้าวที่ปนเปื้อนเชื้อโรคได้ อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กๆ อย่าง “ข้าวเย็นที่เหลือ” กลายเป็นภัยเงียบที่บั่นทอนสุขภาพของคุณทุกวัน