หลายคนไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างผักกาดขาวสองชนิดนี้ และมักจะซื้อแบบสุ่ม แต่แม่ค้าผักเปิดเผยว่า ความแตกต่างระหว่างสองชนิดนี้นั้นมีมากทีเดียว

ไม่ค่อยมีใครรู้ว่า ผักกาดขาวใบเหลือง เมื่อรับประทานจะมีรสหวาน สด และกรอบกว่า ในขณะที่ ผักกาดขาวใบเขียว จะมีใบหนา เส้นใยหนา รสอ่อน สามารถดูดซับรสชาติของวัตถุดิบอื่น ๆ ได้ดี เหมาะสำหรับทำอาหารประเภทต้ม หรือนำไปทำไส้ต่าง ๆ และยังเก็บได้นานโดยไม่เน่าเสียง่าย

ความแตกต่างหลักของผักกาดขาวสองชนิด

1. ระยะเวลาปลูกและเก็บเกี่ยวต่างกัน
แม้ว่าผักกาดขาวทั้งสองชนิดจะเป็นตระกูลเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นพันธุ์ที่ต่างกัน

• ผักกาดขาวใบเหลือง (หรือที่เรียกว่า “ผักกาดขาวพันธุ์เหลือง”) เป็นพันธุ์ที่สุกเร็ว ปลูกเพียงประมาณ 2 เดือนก็เก็บเกี่ยวได้ โดยมักออกสู่ตลาดในฤดูร้อนหรือช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง

• ส่วนผักกาดขาวใบเขียวใช้เวลาปลูกนานกว่า ประมาณ 90 วัน จะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งช้ากว่าผักกาดขาวใบเหลืองมาก

2. รสชาติแตกต่างกัน

• ผักกาดขาวใบเหลืองมีรสหวานกว่า ชุ่มน้ำกว่า ใบบาง นุ่ม กินง่าย เหมาะกับการทำอาหารประเภทสุกี้ กิมจิ ผักดอง หรือผักแช่

• ผักกาดขาวใบเขียวมีใบหนา เส้นใยหยาบกว่า รสอ่อนกว่า แต่สามารถซึมซับรสของเครื่องปรุงหรือวัตถุดิบอื่น ๆ ได้ดี เหมาะกับการต้ม เคี่ยว หรือทำไส้เกี๊ยว อีกทั้งยังไม่เน่าเสียง่ายแม้เก็บไว้นาน

3. อายุการเก็บรักษาไม่เท่ากัน

• ผักกาดขาวใบเหลืองปลูกในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ต้องรดน้ำบ่อยเพื่อให้เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนแห้ง ใบจะอุ้มน้ำมาก ทำให้มีความชื้นสูง
  ใบของผักกาดขาวใบเหลืองจะห่อแน่น เก็บน้ำไว้ได้ดี จึงเป็นสภาพที่แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย จึงเก็บได้ไม่นาน เพียงประมาณ 10 วันในอุณหภูมิห้องก็เริ่มเน่า

• ผักกาดขาวใบเขียวมีปริมาณน้ำน้อยกว่า จึงเก็บได้นานกว่า แม้เก็บไว้หลายเดือนก็ไม่เน่าเสียง่าย ดังนั้นหากต้องการเก็บผักไว้ที่บ้าน ควรเลือกแบบใบเขียวจะดีกว่า

4. ขนาดต่างกัน

• ผักกาดขาวใบเหลืองมีระยะเวลาการเจริญเติบโตสั้น (ประมาณ 2 เดือน) ใบจะกะทัดรัด ทำให้หัวเล็กและน้ำหนักเบา

• ผักกาดขาวใบเขียวมีระยะการเติบโตนานกว่า ดูดซับสารอาหารได้มากกว่า ทำให้ขนาดใหญ่และหนักกว่า

หากไปตลาดแล้วพบว่าผักกาดขาวใบเขียวมีขนาดเล็กเกินไป ไม่ควรซื้อ เพราะแสดงว่าผักได้รับสารอาหารไม่เพียงพอในระหว่างการเจริญเติบโต หรืออาจถูกเก็บเกี่ยวก่อนสุกเต็มที่ รสชาติจะไม่อร่อย

สรุป:
ผักกาดขาวใบเหลืองมีน้ำเยอะ รสหวาน กินอร่อย แต่เก็บรักษาได้ไม่นาน ส่วนผักกาดขาวใบเขียวเก็บได้นานกว่า เหมาะสำหรับการเก็บไว้ใช้ในบ้าน