เกิดเหตุสุดฮาแต่แฝงความตกใจที่เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน เมื่อเด็กชายวัยเพียง 3 ขวบร้องไห้ไม่หยุดระหว่างไปโรงเรียน ครูสงสัยมีสิ่งผิดปกติ จึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที

เช้าวันเกิดเหตุ ชายวัยกลางคนคนหนึ่งได้พาเด็กชายมาส่งที่โรงเรียนอนุบาล แต่เมื่อครูถามข้อมูลผู้ปกครอง เด็กกลับร้องไห้อย่างเดียว ไม่สามารถบอกชื่อพ่อแม่หรือที่อยู่ได้ ทางโรงเรียนพยายามติดต่อครอบครัวแต่ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจเพื่อป้องกันเหตุร้าย

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง เด็กชายยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น พูดแต่เพียงว่า “อยากกลับบ้าน” เจ้าหน้าที่จึงพาเด็กไปที่สถานีตำรวจเพื่อปลอบใจ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบบริเวณ

หลังตรวจสอบไม่นาน ตำรวจพบว่าชายที่พาเด็กมาคือคุณอาแท้ ๆ ของเด็กชื่อ “คุณเสิ่น” ซึ่งถูกเชิญมาสอบถามเพิ่มเติมที่สถานี คุณอาเสิ่นได้อธิบายทั้งอายทั้งโล่งใจว่า

“เช้านี้พ่อแม่ของเด็กติดธุระเลยฝากผมไปส่ง แต่ดันรีบจนขับเข้าผิดโรงเรียน ชื่อคล้ายกันมาก ผมก็แค่คิดว่าเด็กไม่อยากไปเรียนเลยรีบปลอบนิดหน่อยแล้วรีบไปทำงาน ไม่คิดว่าจะส่งผิดที่!”

กลายเป็นว่าความรีบร้อนและความขี้ลืมของคุณอาทำให้ทั้งครูและตำรวจต้องแตกตื่นกันไปทั้งโรงเรียน โชคดีที่หลังจากตรวจสอบชัดเจน ตำรวจสามารถติดต่อพ่อแม่ของเด็กได้และส่งตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ทางโรงเรียนยืนยันว่าจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบข้อมูลผู้ปกครองให้เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนี้เกิดซ้ำอีก ส่วนคุณอาเสิ่นก็ได้แต่หัวเราะเขิน ๆ แล้วพูดว่า

“คราวหน้าจะเช็กชื่อโรงเรียนให้ดี ไม่กล้าประมาทอีกแล้ว!”

💡 รู้ไหม? “อาการขี้ลืม” คืออะไร

“อาการขี้ลืม” คือภาวะที่คนเรามักลืมเรื่องราว รายละเอียด หรือสิ่งที่เพิ่งทำไป แม้เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ถือเป็นความผิดปกติของการจดจำและการประมวลผลข้อมูลในสมอง ซึ่งอาจเกิดจากความเหนื่อยล้า ความเครียด หรือแม้แต่โรคทางระบบประสาท เช่น ภาวะสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์

🧠 ใครเสี่ยงขี้ลืมมากที่สุด?

• ผู้สูงอายุ เนื่องจากสมองเสื่อมตามวัย

• คนทำงานหนัก ใช้สมองมาก พักผ่อนไม่เพียงพอ

• ผู้หญิงหลังคลอด

• คนที่รับประทานอาหารไม่ครบหมู่ โดยเฉพาะผู้ขาดวิตามิน B12 หรือโอเมก้า 3

• ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือใช้ยานอนหลับบ่อย

✅ วิธีป้องกันอาการขี้ลืม

• นอนหลับให้เพียงพอ ไม่อดนอน

• ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง

• กินอาหารที่ดีต่อสมอง เช่น ปลา ไข่ นม ผักใบเขียว และถั่วต่าง ๆ

• ฝึกสมองด้วยการอ่านหนังสือ เขียนบันทึก หรือเล่นเกมฝึกความจำ

• ลดความเครียด พักผ่อนให้สมองได้ผ่อนคลาย