ไตเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกาย มีหน้าที่กรองของเสีย ปรับสมดุลน้ำ เกลือแร่ และแร่ธาตุ และรักษาสภาพแวดล้อมภายในให้สมดุล ไตทั้งสองข้างทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยทุกวันเพื่อกำจัดสารพิษ รักษาระดับความดันโลหิตให้คงที่ และสนับสนุนการทำงานสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อการทำงานของไตลดลง ร่างกายจะส่งสัญญาณเงียบๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ระบบเผาผลาญทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นี่คือ 7 สัญญาณเตือนของไตอ่อนแอที่อาจปรากฏขึ้นในเวลากลางคืน:

1. ภาวะปัสสาวะกลางคืน (Nocturia)คือภาวะที่ต้องตื่นกลางดึกหลายครั้งเพื่อปัสสาวะ แม้ว่าการปัสสาวะตอนกลางคืนเป็นครั้งคราวอาจเป็นเรื่องปกติในผู้สูงอายุ แต่หากยังคงปัสสาวะอยู่หรือเกิดขึ้นบ่อยครั้งในทุกช่วงอายุ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาไตได้

“เมื่อไตล้มเหลว ความสามารถในการขับปัสสาวะจะลดลง ส่งผลให้มีการผลิตปัสสาวะมากขึ้นทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน แต่ภาวะปัสสาวะกลางคืนมักจะเห็นได้ชัดเจนและสร้างความรำคาญ” ดร. วิกรม บี. โคลฮารี แพทย์โรคหัวใจอาวุโสที่ Apollo Hospitals (อินเดีย) อธิบาย

2. หายใจถี่หากคุณรู้สึกหายใจถี่บ่อยๆ แม้จะออกกำลังกายเบาๆ ก็ตาม นี่อาจเป็นสัญญาณของภาวะไตเสื่อม เมื่อไตทำงานผิดปกติ ของเหลวส่วนเกินจะสะสมในปอด ทำให้หายใจลำบาก ในกรณีที่รุนแรง หลายคนอาจรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำเมื่อนอนลง

3.โรคนอนไม่หลับ โรคนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง มักเกิดจากการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน เมื่อไตไม่สามารถกรองเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารพิษจะสะสม ทำให้การนอนหลับไม่สนิท การนอนหลับไม่เพียงพอไม่เพียงแต่ทำให้การทำงานของไตเสื่อมลงอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย นอกจากนี้ ระดับเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอนหลับ มักจะต่ำกว่าปกติในผู้ป่วยโรคไต ทำให้นอนหลับยากและตื่นกลางดึกได้ง่าย

4. อาการคันผิวหนัง อาการคันผิวหนังเนื่องจากโรคไตสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อการทำงานของไตลดลง ไตจะไม่สามารถรักษาสมดุลของแร่ธาตุในเลือดได้อีกต่อไป ทำให้เกิดภาวะอิเล็กโทรไลต์ผิดปกติและอาการคัน NetMeds ระบุว่าอาการคันอย่างรุนแรงเป็นหนึ่งในอาการทั่วไปของโรคไตระยะลุกลาม ซึ่งสาเหตุหลักมาจากระดับฟอสฟอรัสในเลือดที่สูง

5. ตะคริวความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์อาจทำให้เกิดตะคริวได้เช่นกัน ในผู้ป่วยโรคไต ระดับแคลเซียมต่ำร่วมกับระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดตะคริว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน

6. โรคขาอยู่ไม่สุขจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในหอสมุดการแพทย์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา พบว่าโรคขาอยู่ไม่สุขพบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ภาวะนี้เกี่ยวข้องกับการสะสมของสารพิษและการนอนหลับผิดปกติ ทำให้เกิดความรู้สึกต้องขยับขาตลอดเวลา รบกวนการนอนหลับสนิท และทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวัน

7. เท้า/มือบวมเมื่อไตทำงานผิดปกติ ของเหลวจะคั่งค้างอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย มักทำให้เกิดอาการบวมที่ข้อเท้า เท้า ขา หรือมือ อาการบวมนี้อาจรุนแรงขึ้นในเวลากลางคืน ทำให้รู้สึกหนักและไม่สบายตัว