---

🧠 4 สัญญาณ “เงียบๆ” เตือนก่อนเกิดโรคสโตรก (Stroke) ภายใน 7 วัน — 90% ของคนมักมองข้าม จนรู้ตัวอีกทีก็สายเกินไป!

โรคสโตรก หรือที่รู้จักกันว่า “โรคหลอดเลือดสมอง” คือหนึ่งในภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยจำนวนมากทุกปี และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ มันไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเสมอไป!
เพราะก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ร่างกายมักจะส่ง “สัญญาณเตือน” ล่วงหน้ามาแล้ว แต่คนส่วนใหญ่กลับมองข้าม คิดว่าแค่เหนื่อยหรือพักผ่อนไม่พอ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทย้ำว่า หากสามารถสังเกตอาการเหล่านี้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และรีบเข้ารับการตรวจรักษา ก็อาจช่วยชีวิตได้จริง

1. ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด

หากสังเกตเห็นว่าปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด หรือพูดเพี้ยน เสียงเปลี่ยน พูดติดขัด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ปกติ — นี่คือสัญญาณสำคัญว่ามีบางอย่างผิดปกติในสมอง

💬 คำเตือนจากแพทย์:
อย่ารอให้อาการหายเอง เพราะอาจเป็น “ภาวะเตือนก่อนเกิดสโตรก (TIA)” ซึ่งสามารถลุกลามเป็นโรคอัมพาตถาวรได้

 2. แขนขาอ่อนแรง หรือชาเฉพาะข้าง

รู้สึกว่ามือกำไม่แน่น ยกแขนไม่ขึ้น หรือขาข้างหนึ่งอ่อนแรง เดินแล้วเซ — อาจเป็นสัญญาณว่าหลอดเลือดในสมองเริ่มตีบหรืออุดตัน

 อย่ามองข้าม:
อาการเพียงไม่กี่นาทีอาจเป็น “เสียงเตือนจากสมอง” ที่กำลังขาดเลือดอย่างเฉียบพลัน

 3. เวียนหัว มองเห็นภาพซ้อน หรือปวดหัวรุนแรง

ก่อนเกิดโรคสโตรก หลายคนมีอาการเวียนหัว เห็นภาพเบลอ หรือปวดหัวอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ อาการเหล่านี้เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ

คำแนะนำ:
หากเกิดอาการเหล่านี้บ่อย หรือเป็นเฉียบพลัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเช็กความดันและตรวจสมองโดยด่วน

 4. พูดช้า คิดช้า จำอะไรไม่ค่อยได้

เมื่อสมองขาดออกซิเจน การประมวลผลของสมองจะช้าลง ทำให้พูดติด ๆ ขัด ๆ คิดคำไม่ออก หรือสับสนกับสิ่งรอบตัว

นี่คือสัญญาณชัดเจนว่าต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที!

จำไว้ให้ขึ้นใจ “FAST” คำเตือนชีวิต

แพทย์แนะนำให้ใช้หลัก “FAST” เพื่อจำอาการสโตรกได้ง่ายขึ้น:

• F (Face): หน้าปากเบี้ยวหรือไม่

• A (Arms): แขนขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง

• S (Speech): พูดไม่ชัด หรือพูดเพี้ยน

• T (Time): หากมีอาการเหล่านี้ ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที

เพราะ “เวลา” คือปัจจัยสำคัญที่สุด! การรักษาภายใน 3 ชั่วโมงแรก จะเพิ่มโอกาสรอดและลดความพิการได้มากกว่า 80%

 สรุป

โรคสโตรกเป็นภัยเงียบที่อันตราย แต่สามารถป้องกันได้ หากเราฟังสัญญาณจากร่างกายให้ดี
อย่ามองข้ามอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะมันอาจเป็น “เสียงเตือนจากสมอง” ที่กำลังขอความช่วยเหลืออยู่ก็ได้

👉 รู้เร็ว รักษาได้ทัน ชีวิตคุณจะปลอดภัยมากขึ้นอีกหลายเท่า!