หญิงทุ่มเงิน 4.7 ล้าน ซื้อที่จอดรถคอนโด 196 ช่อง รู้ราคา "ปล่อยเช่า" คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม จนผู้อาศัยคนอื่นๆ ลุกฮือประท้วง "ไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น!"

การถกเถียงเกี่ยวกับปัญหาโอกาสทางธุรกิจจากคอนโดมิเนียม ผ่านทางการเป็น “เจ้าของที่จอดรถ” ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในประเทศจีน ได้ดึงดูดความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะกำลังมองหาซื้อบ้าน หญิงแซ่ตง ได้พบกับคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ เพราะชอบสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัย จึงตัดสินใจซื้อทันที ในระหว่างการเตรียมเอกสารและตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่อยู่อาศัยใหม่ ก็ได้บังเอิญพบกับโอกาสทางธุรกิจที่หายาก

ในตอนนั้น โครงสร้างพื้นฐานการจราจรรอบๆ คอนโดมิเนียมยังค่อนข้างล้าหลัง ประชาชนสามารถจอดรถได้ฟรีบนถนนได้ง่ายๆ ซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ไม่ต้องการเสียเงินซื้อที่จอดรถในอาคารใต้ดินของเจ้าของโครงการ แม้ว่าราคาจะเริ่มต้นเพียง 50,000 ถึง 60,000 หยวน ซึ่งถือว่าถูกกว่าราคาตลาดมาก

อย่างไรก็ตาม คุณตงมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไป เธอทำนายว่าในอนาคตอันใกล้ เมื่อโครงสร้างพื้นฐานได้รับการพัฒนาและประชาชนเริ่มย้ายเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น การหาที่จอดรถจะกลายเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากในคอนโดมิเนียมมีที่จอดรถสำหรับเพียง 500 คันเท่านั้น จึงเห็นว่านี่คือโอกาสทางธุรกิจที่ไม่ควรพลาด

คุณตงรีบเจรจากับเจ้าของโครงการเพื่อซื้อที่จอดรถที่ยังไม่ได้ขาย ในขณะที่ทางเจ้าของโครงการก็ยินยอม เพื่อเร่งการคืนเงินที่ลงทุนไปหลังจากดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายเสร็จสิ้น ที่จอดรถ 196 ช่องที่เหลือ ได้ถูกขายให้กับคุณตงในราคา 1 ล้านหยวน (ประมาณ 4.7 ล้านบาท)

ราคาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่ก็ต้องเผชิญกับการตอบสนองที่รุนแรง

การทำนายของคุณตงกลายเป็นจริงอย่างรวดเร็ว บริเวณรอบๆ คอนโดมิเนียมมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีผู้อยู่อาศัยย้ายเข้ามามากขึ้น สถานการณ์ความปลอดภัยและการจราจรถูกปรับปรุง มีการห้ามจอดรถตามที่ต่างๆ ทำให้การหาที่จอดรถกลายเป็นเรื่องยากขึ้น ผู้อยู่อาศัยจึงเริ่มพิจารณาซื้อที่จอดรถในอาคารใต้ดินของคอนโดมิเนียม

อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายคนกลับมาที่ที่พักของตัวเอง พวกเขาพบว่าเกือบทั้งหมดของที่จอดรถที่ว่างได้ถูกคุณตงซื้อไป และติดตั้งกุญแจล็อคไว้เรียบร้อยแล้ว สถานการณ์ขาดแคลนที่จอดรถยิ่งแย่ลง เมื่อคุณตงเริ่มขายที่จอดรถเหล่านี้ในราคาถึง10,000 หยวน (ประมาณ 4.7 หมื่นบาท) ซึ่งสูงกว่าราคาเดิมถึงสองเท่า

ในตอนแรก ผู้อยู่อาศัยหลายคนเสนอขอเช่าที่จอดรถในราคา 500 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 2,300 บาท) แต่คุณตงปฏิเสธโดยยืนยันว่าจะขายเท่านั้น ไม่ให้เช่า ผู้อยู่อาศัยบางคนพยายามหาที่จอดรถภายนอก แต่ที่จอดรถใกล้ๆ กลับมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ามาก ขณะที่ที่จอดรถที่ห่างออกไปและมีราคาถูกกว่ากลับไม่สะดวกในการเดินทาง

หลายคนไม่มีทางเลือกจึงต้องกลับไปเจรจากับคุณตงอีกครั้ง เพื่อหวังจะซื้อที่จอดรถในราคาต้นทุน แต่คุณตงยืนกรานที่จะขายในราคา 10,000 หยวน เพราะเธอเห็นว่านี่คือราคาตลาดในปัจจุบัน ทำให้ความไม่พอใจของผู้อยู่อาศัยเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หลายคนเริ่มกล่าวหาคุณตงว่า "เอากำไรจากความยากลำบากของผู้อื่น" และบางคนก็โจมตีเธออย่างรุนแรง

กลุ่มผู้อยู่อาศัยบางกลุ่มรวมตัวกันเพื่อกดดันและเรียกร้องให้เธอขายที่จอดรถในราคาต้นทุน พวกเขายังวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการบริหารคอนโดมิเนียมว่า "สมรู้ร่วมคิด" กับคุณตงในการขายที่จอดรถทั้งหมดให้กับคนเดียว ซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยคนอื่นได้รับความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารยืนยันว่า ก่อนที่จะทำการขาย พวกเขาได้ประกาศให้ผู้อยู่อาศัยทราบเพื่อให้มีโอกาสซื้อที่จอดรถ แต่ไม่มีใครสนใจในตอนนั้น การขายให้กับคุณป้าตงหลังจากนั้นก็เป็นไปตามกฎหมายและโปร่งใส

ทางด้านคุณตงก็ได้ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า "ตอนที่ราคาถูกไม่มีใครซื้อ ตอนนี้ราคาขึ้นกลับอยากให้ฉันขายในราคาต่ำตามเดิม ฉันทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย และมีสิทธิ์ขายในราคาตลาด การจะซื้อหรือไม่ซื้อก็เป็นสิทธิ์ของทุกคน"

สรุปแล้ว คุณตงมีสิทธิ์ที่จะเพิ่มราคาขายหรือไม่?

หลังจากเรื่องนี้ถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวางในสื่อและโซเชียลมีเดีย หลายคนตั้งคำถามว่า เจ้าของโครงการสามารถขายที่จอดรถจำนวนมากให้กับบุคคลเดียวได้หรือไม่?

ตามรายงานจาก NetEase อ้างอิงมาตรา 276 ของประมวลกฎหมายแพ่งจีน ระบุว่า ที่จอดรถในคอนโดมิเนียมต้องรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยก่อน แต่หากได้มีการประกาศอย่างเปิดเผยแล้วและผู้อยู่อาศัยไม่ได้ซื้อ เจ้าของโครงการสามารถขายให้กับบุคคลอื่นได้ การขายที่จอดรถ 196 ช่องให้กับคุณตงนั้น ได้รับการยืนยันว่า “เป็นการทำธุรกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย” เนื่องจากดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายครบถ้วน

และตามมาตรา 240 ของประมวลกฎหมายแพ่งจีน คุณตงมีสิทธิ์ในการใช้งาน การทำธุรกิจ และการโอนที่จอดรถเหล่านี้ ซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลของเธอ  การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในตลาด หากราคาที่เธอตั้งอยู่ในขอบเขตที่สมเหตุสมผล และไม่ละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมราคา นี่ก็ “ถือเป็นสิทธิ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย”

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนที่มองว่า การที่มีเจ้าของคนเดียวซื้อมากมายขนาดนี้ ทำให้การจอดรถที่มีจำนวนจำกัดเป็นปัญหาและส่งผลเสียต่อสิทธิและผลประโยชน์ของเจ้าของรายอื่น ดังนั้น เจ้าของรายอื่นอาจยื่นฟ้องศาลเพื่อให้ธุรกรรมนี้เป็นโมฆะ

จนถึงตอนนี้ ผลสรุปของเรื่องยังไม่มีการตัดสิน แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนตระหนักว่า เมื่อเลือกที่อยู่อาศัย ผู้อยู่อาศัยควรพิจารณาถึงระยะยาวในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ที่จอดรถ นอกจากนี้ เจ้าของโครงการและคณะกรรมการบริหารควรโปร่งใสในการขายทรัพย์สินส่วนกลาง และให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย ในขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจเช่นคุณตง ก็ควรพิจารณาถึงปัจจัยด้านชุมชน เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น