ตลาดทองคำทั่วโลกกำลังร้อนแรงที่สุดในรอบหลายปี ตั้งแต่เว็บบอร์ดการลงทุนไปจนถึงกลุ่มในโซเชียลมีเดีย ต่างก็แชร์กันว่า “ถือทองคือถือเงิน” ราคาทองทะยานทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนแห่เข้าซื้อด้วยความเชื่อว่านี่คือ “ทางลัดสู่ความมั่งคั่ง”

แต่เช่นเดียวกับทุกกระแสเก็งกำไร — เพียงแค่ “การกลับตัวของตลาด” ครั้งเดียว ความฝันก็อาจพังทลายในพริบตา

💸 จากพนักงานออฟฟิศธรรมดา สู่หนี้ก้อนโตในคืนเดียว

“ฮา เหม่ย” (Hà Mễ) ชายหนุ่มชาวจีนวัยทำงานธรรมดา รายได้ราว 3,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 11,000 บาท) แม้จะไม่ได้เป็นนักเก็งกำไร แต่เมื่อเห็นราคาทองพุ่งขึ้นทุกวัน เขาก็เริ่มคิดว่าการลงทุนในทองอาจเป็นโอกาส “เปลี่ยนชีวิต”

“เพื่อนผมหลายคนบอกว่าทองคือการลงทุนที่ปลอดภัย ผมคิดว่าถ้าเก็บเงินฝากไปเรื่อย ๆ คงไม่มีวันรวยได้” เขาเล่า

ต้นปี 2025 เขาตัดสินใจกู้เงินจากบัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล และแอปกู้เงินออนไลน์ รวมแล้วได้ประมาณ 600,000 หยวน (ราว 2.2 ล้านบาท) ก่อนจะนำเงินทั้งหมดไปใช้ “เล่นทองล่วงหน้า” ด้วย เลเวอเรจ 10 เท่า ซึ่งเท่ากับการลงทุนกว่า 6 ล้านหยวน (ราว 22 ล้านบาท)

📉 ทองร่วงเพียงวันเดียว สูญหมดตัว

เพียงวันเดียวหลังจากทองคำแตะจุดสูงสุด ราคากลับร่วงลง 3.45% — และด้วยอัตราเลเวอเรจ 10 เท่า หมายความว่าการลดลงเพียง 10% สามารถ “ล้างพอร์ต” ได้ทันที

“ตอนนั้นผมช็อกมาก ผมคิดว่าทองคือสินทรัพย์ปลอดภัย ใครจะคิดว่าทั้งเงินเก็บและรายได้ 6 ปีของผมหายไปในไม่กี่ชั่วโมง” ฮา เหม่ย กล่าวด้วยความเสียใจ

จากเดิมที่ตั้งใจจะ “เก็งสั้นกำไรเร็ว” พอราคาทองเริ่มลง เขากลับลังเลไม่กล้าขาย จนขาดทุนทั้งหมด และยังต้องรับภาระหนี้จากการกู้ยืมก้อนใหญ่ที่ตามมาทันที

⚠️ บทเรียนราคาแพงจาก “ความโลภ”

เรื่องราวของฮา เหม่ย ไม่ได้เป็นเพียงโศกนาฏกรรมของนักลงทุนมือใหม่เท่านั้น แต่ยังสะท้อน “จิตวิทยาความอยากรวยเร็ว” ของคนยุคใหม่ ที่เชื่อว่าเพียงแค่ลงทุนถูกจังหวะก็จะเปลี่ยนชีวิตได้

ในยุคที่ทุกอย่างถูกโฆษณาว่าง่ายและให้ผลตอบแทนสูง ตั้งแต่สินเชื่อออนไลน์ “ดอกเบี้ย 0% ใน 30 วัน” ไปจนถึงการใช้เลเวอเรจ 10 เท่าในตลาดทอง หลายคนลืมไปว่า “ตลาดไม่ได้เดินตามอารมณ์ของเรา”

สรุป: การลงทุนไม่ใช่เรื่องของโชค แต่คือเรื่องของ “วินัยและความรู้”

การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อใช้เงินกู้มาเสี่ยงต่อการเก็งกำไร นั่นเท่ากับนำ “อนาคตทางการเงินของตัวเอง” มาวางเดิมพัน

ทองคำอาจเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะยาว แต่ถ้าขาดความเข้าใจในกลไกตลาดและการบริหารความเสี่ยง ความปลอดภัยนั้นก็อาจหายไปภายในชั่วข้ามคืน