บันทึกวิธีการรักษาอันทรงคุณค่านี้เพื่อช่วยขับสารพิษและช่วยชีวิตจากการถูกสุนัขบ้าและงูกัดในเวลาเพียง 1 นาที

การถูกงูพิษกัดและสุนัขบ้ากัดเป็นอุบัติเหตุที่พบบ่อย โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและภูเขา หากไม่ทราบวิธีปฐมพยาบาลอย่างทันท่วงที อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจนพิการหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

ทุกปี มีคนถูกงูกัดราว 30,000 ถึง 40,000 คนทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตประมาณ 2,000 คน ในสหรัฐอเมริกา มีคนถูกงูกัดราว 6,000 ถึง 8,000 คนต่อปี โดยมีอัตราการเสียชีวิตจากการถูกงูเห่ากัดร้อยละ 9 และจากงูพิษร้อยละ 0.2 ที่แผนกฉุกเฉินโรงพยาบาล Bach Mai กรุงฮานอย อัตราการเสียชีวิตจากการถูกงูเห่ากัดในปี พ.ศ. 2530 - 2534 อยู่ที่ 20% ในช่วงปี พ.ศ. 2534 - 2536 อยู่ที่ 11.9% (จากผู้ป่วยทั้งหมด 71 ราย) ในช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม พ.ศ. 2541 อยู่ที่ 7% (ผู้ป่วย 86 ราย) ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการถูกงูเห่ากัด

กล้วยมีฤทธิ์ในการดูดซับสารพิษที่อยู่ในบาดแผล

วิธีรักษางูกัดด้วยเมล็ดมะนาว

อุบัติเหตุถูกงูกัดมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน (เพราะงูเป็นสัตว์จำศีล) การมองดูรอยกัดที่เหลืออยู่บนผิวหนังสามารถแยกแยะระหว่างงูพิษกับงูธรรมดาได้ รอยฟันงูโดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นวงกลมและสม่ำเสมอ งูพิษจะทิ้งรอยไว้ลึกกว่ารอยฟันชนิดอื่น 2 รอย ซึ่งก็คือตะขอพิษ 2 อัน พิษงูเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบน้ำเหลือง ดังนั้นเมื่อถูกงูกัด จำเป็นต้องใช้สายรัดน้ำเหลืองเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ไม่ใช่สายรัดหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกงูหรือสุนัขบ้ากัด คุณควรอยู่ในความสงบและล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำเกลือ 9% ห้ามบีบหรือบีบมากเกินไป เพื่อป้องกันการระคายเคือง