โรคเบาหวานถือเป็นภัยเงียบที่กำลังคืบคลานเข้ามาโดยที่หลายคนไม่รู้ตัว เพราะในระยะเริ่มแรก ระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่ทำให้เกิดอาการชัดเจน จึงทำให้หลายคนละเลย จนกว่าจะตรวจพบว่า “ป่วยแล้ว” ในระยะที่มีภาวะแทรกซ้อน

แพทย์เตือนว่า... คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเผชิญกับโรคเบาหวาน จนกว่าจะมีอาการหนัก หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ตาเริ่มพร่า เหนื่อยง่าย หรือแผลหายช้า ดังนั้น หากคุณเริ่มมี “5 อาการเล็กน้อย” ต่อไปนี้ อย่าชะล่าใจ เพราะมันอาจเป็นสัญญาณแรกที่ร่างกายพยายามเตือนคุณ! 

 1. หิวบ่อย เหนื่อยง่ายผิดปกติ

โดยปกติ ร่างกายจะเปลี่ยนอาหารที่เรากินให้เป็นกลูโคส เพื่อใช้เป็นพลังงาน แต่ถ้าร่างกายผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ หรือเซลล์ในร่างกาย “ดื้อต่ออินซูลิน” กลูโคสจะไม่สามารถเข้าสู่เซลล์ได้ ส่งผลให้พลังงานลดลง รู้สึกหิวและเหนื่อยตลอดเวลา แม้จะกินอาหารมากกว่าปกติ

2. ปัสสาวะบ่อย และกระหายน้ำมาก

คนปกติจะปัสสาวะประมาณ 4–7 ครั้งต่อวัน แต่ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ เพราะไตต้องทำงานหนักในการขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ส่งผลให้ “กระหายน้ำ” มากกว่าปกติ

หากคุณเริ่มรู้สึกว่าต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางคืนบ่อย ๆ หรือดื่มน้ำไม่หยุดแต่ยังคอแห้ง — อย่านิ่งนอนใจ

3. ปากแห้ง คันผิวหนัง ผิวแห้ง

เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำจากการปัสสาวะบ่อย ความชุ่มชื้นในร่างกายก็ลดลงไปด้วย ทำให้ปากแห้ง ผิวแห้ง และคันตามตัวโดยไม่มีสาเหตุ นอกจากนี้ผู้หญิงบางคนอาจพบปัญหา “ติดเชื้อราง่าย” บริเวณผิวหนังหรือจุดซ่อนเร้น เนื่องจากเชื้อราเติบโตได้ดีในสภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

4. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

แม้จะกินปกติหรือกินมากขึ้น แต่กลับน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว — นี่เป็นสัญญาณสำคัญของเบาหวานชนิดที่ 1
เพราะเมื่อเซลล์ไม่สามารถดูดซึมกลูโคสมาใช้ได้ ร่างกายจะเริ่มสลายไขมันและกล้ามเนื้อเพื่อเอาพลังงานมาใช้แทน ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว

5. มองเห็นภาพพร่ามัว

ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น จะทำให้ของเหลวในร่างกายเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในดวงตา “เลนส์ตา” อาจบวมชั่วคราว ทำให้มองเห็นภาพไม่ชัด หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะเบาหวานขึ้นตา ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการสูญเสียการมองเห็นในผู้ใหญ่

สรุป : ฟังดูเหมือนอาการเล็กน้อย... แต่ไม่ควรมองข้าม

โรคเบาหวานไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และอาการเริ่มต้นมัก “แอบมาแบบเงียบ ๆ” ดังนั้น หากคุณมี 2–3 อาการในนี้ ควรรีบไปตรวจระดับน้ำตาลในเลือดโดยแพทย์ทันที
💡 ยิ่งตรวจพบเร็ว ยิ่งควบคุมได้เร็ว ป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงในอนาคตได้แน่นอน