หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่า “หมอน” ที่เราหนุนนอนทุกคืนค่อย ๆ เปลี่ยนสภาพไปอย่างช้า ๆ จากหมอนนุ่มฟูในวันแรก กลายเป็นหมอนแฟบ เหลืองซีด และดูไม่น่านอนเหมือนเดิม ปัญหานี้เกิดขึ้นได้กับทุกบ้าน โดยเฉพาะหมอนที่ใช้มานานหลายปี ซึ่งสะสมเหงื่อ น้ำลาย เซลล์ผิวหนัง และฝุ่นละอองไว้โดยไม่รู้ตัว สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงทำให้หมอนดูเก่า แต่ยังอาจเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่นและแบคทีเรียที่ส่งผลต่อสุขภาพอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องรีบซื้อหมอนใหม่เสมอไป เพราะมี “วิธีง่าย ๆ ราคาถูก” ที่จะช่วยให้หมอนของคุณกลับมาขาว ฟู และนุ่มเหมือนใหม่อีกครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีแรง ๆ หรือเครื่องซักชั้นสูงเลย

สิ่งที่ต้องใช้คือ เบกกิ้งโซดา (ผงฟู) ซึ่งหาได้ทั่วไปในครัวหรือร้านสะดวกซื้อ ราคาก็เพียงไม่กี่บาทเท่านั้น เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบเหลือง ดูดกลิ่นอับ และฟื้นฟูเส้นใยในหมอนให้ฟูขึ้นได้อย่างดี

🧽 วิธีทำง่าย ๆ ภายในไม่กี่ขั้นตอน

1. เตรียมน้ำอุ่นในกะละมังใหญ่ ใส่เบกกิ้งโซดาประมาณ 2–3 ช้อนโต๊ะต่อหมอนหนึ่งใบ

2. เติม น้ำส้มสายชูขาว ประมาณครึ่งแก้ว (หากมี) เพื่อช่วยละลายคราบมันและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

3. แช่หมอนลงในน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดา ทิ้งไว้ประมาณ 30–40 นาที เพื่อให้ส่วนผสมซึมเข้าสู่เนื้อหมอน

4. จากนั้นบีบหมอนเบา ๆ เพื่อไล่คราบและสิ่งสกปรกออก (ห้ามบิดแรง เพราะอาจทำให้เส้นใยเสียรูป)

5. ล้างด้วยน้ำสะอาดจนหมดฟอง แล้วนำไปตากแดดแรง ๆ หรืออบลมร้อนอุณหภูมิต่ำจนแห้งสนิท

เพียงเท่านี้ หมอนของคุณก็จะกลับมาขาวสะอาด มีกลิ่นสดชื่น และฟูนุ่มเหมือนเพิ่งซื้อใหม่จากร้านเลยทีเดียว

🌤️ ทำไมวิธีนี้ถึงได้ผล?

เบกกิ้งโซดาเป็นสารธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน ๆ สามารถขจัดคราบเหลืองจากเหงื่อและน้ำลายได้โดยไม่ทำลายเนื้อผ้า ส่วน น้ำส้มสายชู มีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออ่อน ๆ และช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เมื่อนำมาผสมกัน จะเกิดปฏิกิริยาฟองเล็ก ๆ ที่ช่วยดึงสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยหมอน ทำให้หมอนฟูและนุ่มขึ้นโดยไม่ต้องใช้ผงซักฟอกแรง ๆ

นอกจากนี้ การซักด้วยวิธีนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของหมอน เพราะไม่ทำลายโครงสร้างใยสังเคราะห์หรือขนเป็ดข้างใน และยังช่วยลดโอกาสเกิดไรฝุ่นที่เป็นสาเหตุของภูมิแพ้อีกด้วย

💤 เคล็ดลับดูแลหมอนให้นุ่มฟูอยู่เสมอ

• ซักหมอนอย่างน้อยปีละ 2–3 ครั้ง เพื่อขจัดเหงื่อและฝุ่น

• ใช้ปลอกหมอนที่ระบายอากาศดี และซักทุกสัปดาห์

• ตากหมอนกลางแดดเป็นครั้งคราวเพื่อฆ่าเชื้อและลดกลิ่นอับ

• ถ้าหมอนเริ่มแฟบ ให้ตีกลับรูปด้วยมือหรือโยนเบา ๆ เพื่อกระจายเส้นใยให้ฟูขึ้น

เพียงคุณให้เวลาไม่กี่สิบนาที หมอนใบเก่าก็สามารถกลับมานุ่มฟูและขาวสะอาดได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ วิธีนี้นอกจากประหยัดแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดการทิ้งของใช้ในบ้านที่ยังสามารถฟื้นฟูได้อีกด้วย

ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อหมอนใหม่ ลองใช้เบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูดูสิ แล้วคุณจะทึ่งกับผลลัพธ์ที่ได้ — หมอนขาว ฟูนุ่ม และหอมสะอาดเหมือนเพิ่งออกจากกล่อง!