ผักราคาถูกแต่แคลเซียมสูงกว่านม กินบ่อยสุขภาพกระดูกดี

ผักชนิดนี้จะมีมากในฤดูหนาว อุดมไปด้วยสารอาหาร โดยเฉพาะแคลเซียม ซึ่งมีปริมาณมากกว่านมอีกด้วย

แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อร่างกายมนุษย์ โดยคิดเป็น 1.5–2% ของน้ำหนักตัวทั้งหมด ในจำนวนนั้น 99% อยู่ในกระดูก ฟัน และเล็บ อีก 1% อยู่ในเลือด แคลเซียมไม่เพียงช่วยให้กระดูกแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้กล้ามเนื้อ หัวใจ และระบบประสาททำงานได้ตามปกติ

ทำไม “ผักกวางตุ้งไต้หวัน” (Pak Choi / Bok Choy) ถึงถูกเรียกว่า “ราชาแห่งแคลเซียม”?

หากร่างกายไม่ได้รับแคลเซียมเพียงพอจากอาหาร ร่างกายจะดึงแคลเซียมจากกระดูกมาใช้ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้กระดูกเปราะและเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน

โดยทั่วไป คนมักจะได้รับแคลเซียมจากนมหรือผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต หรือจากปลา (เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า) ผักใบเขียว เต้าหู้ที่เสริมแคลเซียม หรือปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งกระดูก เช่น ปลาซาร์ดีน

แต่ตามข้อมูลจากนักโภชนาการ “ผักกวางตุ้งไต้หวัน” เป็นแหล่งแคลเซียมธรรมชาติที่ให้ปริมาณมากกว่านม โดยผักกวางตุ้งไต้หวัน 100 กรัมให้แคลเซียมถึง 158 มิลลิกรัม ขณะที่นมสด 100 กรัมมีเพียงประมาณ 120 มิลลิกรัม จึงได้รับฉายาว่า “ราชาแห่งแคลเซียม”

อีกทั้งผักชนิดนี้ยังไม่มีแลคโตส เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้นมหรือย่อยแลคโตสไม่ได้ เพราะกินแล้วไม่ทำให้ท้องอืดหรือแน่นท้อง และที่สำคัญคือไม่ทำให้อ้วนเหมือนการดื่มนม

ราคาของผักกวางตุ้งไต้หวันก็ถูกกว่านมมาก และเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็กที่กำลังเจริญเติบโต และผู้สูงอายุที่ต้องการป้องกันโรคกระดูกพรุน

จุดเด่นอีกอย่างคือ ผักชนิดนี้มีอัตราส่วนแคลเซียมต่อแมกนีเซียมที่สมดุล เหมาะสำหรับการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

นอกจากนี้ ผักกวางตุ้งไต้หวันยังมีวิตามิน K สูงถึง 76.4 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม รวมทั้งอุดมไปด้วยวิตามิน A, วิตามิน C, โฟเลต, เหล็ก, เบต้าแคโรทีน และโพแทสเซียม ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อและระบบประสาททำงานดี ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอดและลำไส้

วิธีรักษาแคลเซียมในผักกวางตุ้งไต้หวันให้ได้มากที่สุด

• เลือกผักใบหนา รูปร่างคล้ายช้อนขนาดเล็ก เพราะจะมีแคลเซียมมากกว่า

• เมื่อต้มผัก ควรลวกในน้ำร้อนแล้วใส่น้ำมันเล็กน้อย จะช่วยให้ผักยังคงสีเขียวสดและดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น

• หากผัดรวมกับเห็ด จะช่วยเสริมคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น