หลายคนเชื่อว่าการกินผักเยอะ ๆ เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ ยิ่งกินสดยิ่งได้วิตามินเต็ม ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าผักบางชนิด หากกินดิบมากเกินไป อาจกลายเป็นภัยเงียบที่ทำร้าย “ไต” โดยไม่รู้ตัว

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไตได้ออกมาเตือนว่า ผักหลายชนิดในชีวิตประจำวันของเรา เช่น ผักโขม ผักบุ้ง ชะอม ผักกระเฉด ผักแพว และตำลึง มีสารที่ชื่อว่า “ออกซาเลต” (Oxalate) อยู่ในปริมาณสูง ซึ่งสารนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปจับตัวกับแคลเซียม กลายเป็น “แคลเซียมออกซาเลต” ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิด “นิ่วในไต”

โดยเฉพาะคนที่มีพฤติกรรมกินผักสดทุกวัน เช่น ทำสลัด หรือคั้นน้ำผักดื่ม อาจได้รับออกซาเลตในปริมาณมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อสะสมไปนาน ๆ จะส่งผลให้ไตทำงานหนัก จนเกิดภาวะไตเสื่อม หรือไตวายได้ในที่สุด

👉 วิธีป้องกันง่าย ๆ คือ
ก่อนกินผักกลุ่มนี้ ควรนำไป “ลวกหรือต้มในน้ำเดือดสักครู่” แล้วเทน้ำทิ้ง เพราะความร้อนจะช่วยลดปริมาณออกซาเลตได้มากกว่า 50% และควรกินผักให้หลากหลาย ไม่ควรกินซ้ำชนิดเดิมทุกวัน

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้

• ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 1.5–2 ลิตร เพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย

• หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะยิ่งทำให้ไตทำงานหนัก

• ตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัตินิ่วหรือโรคไตในครอบครัว

💬 สรุปง่าย ๆ:
ผักดีต่อสุขภาพก็จริง แต่บางชนิดควร “ลวกก่อนกิน” โดยเฉพาะผักที่มีสารออกซาเลตสูง เพื่อป้องกันปัญหาไตพังโดยไม่รู้ตัว เพราะเพียงแค่ผักจานเดียว ก็อาจเปลี่ยนชีวิตได้!