การกินผลไม้โดยไม่ระมัดระวังอาจไม่ต่างอะไรกับการนำโรคเข้าสู่ร่างกาย
ผลไม้เป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในมื้ออาหารประจำวันของเรา เพราะไม่เพียงแต่อร่อยเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยเติมเต็มสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่งเสริมการเผาผลาญ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

แต่หลายคนไม่รู้ว่ามีผลไม้บางชนิดที่ถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งมะเร็ง” เพราะสามารถทำให้เซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์ผิดปกติ (กลายพันธุ์) และเพิ่มจำนวนอย่างควบคุมไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีผลไม้บางชนิดที่มีสารพิษและพยาธิอันตราย หากไม่ล้างให้สะอาดก่อนรับประทานอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

ต่อไปนี้คือผลไม้ 5 ชนิดที่ควรระวังเป็นพิเศษเมื่อรับประทาน:

1. กล้วยบ่มเร่ง
กล้วยเป็นผลไม้ที่พบได้ทั่วไปในครัวเรือน หากรับประทานเป็นประจำสามารถช่วยระบบขับถ่ายได้ดี เพราะกล้วยมีใยอาหารสูง ช่วยย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก และยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย



อย่างไรก็ตาม กล้วยเป็นผลไม้ที่เสียได้ง่าย บางครั้งซื้อมาไม่นานก็กลายเป็นสีดำ เพื่อป้องกันไม่ให้เน่าเสียหรือกระแทกระหว่างขนส่ง ผู้ขายมักเก็บกล้วยตอนยังเขียวแล้วนำไปแช่สารเคมี สารเร่งสุก หรือสารกันเสียที่มีฟอร์มาลดีไฮด์ เพื่อให้กล้วยสุกสวยและอยู่ได้นาน
สารเคมีเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย หากรับประทานกล้วยบ่มเร่งเป็นเวลานานอาจทำให้เด็กเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เร็วผิดปกติ และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว หากกล้วยมีสีผิดธรรมชาติไม่ควรกินมาก เพราะอาจกระตุ้นการเกิดเซลล์มะเร็งได้

2. หมาก
ตั้งแต่อดีต “หมากพลู” มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมของผู้คนในเขตร้อนเอเชียและโอเชียเนีย ซึ่งใช้ใบพลูและผลหมากเคี้ยวร่วมกัน ผลหมากเองก็มีสารอาหารหลายชนิดที่หลายคนไม่รู้
หมากมีสารอัลคาลอยด์ที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร เพิ่มการทำงานของลำไส้ และมีสารคาเทชินกับโคลีนที่ช่วยกระตุ้นสมอง ทำให้รู้สึกสดชื่น
แต่ในประเทศญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมาก เพราะหมากมีความแข็ง เมื่อเคี้ยวนานจะทำให้เยื่อบุช่องปากบาดเจ็บได้
นอกจากนี้ หมากยังมีไนไตรต์ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างการกินหมากกับการเกิดมะเร็งในช่องปาก ผู้เชี่ยวชาญพบว่าผู้ป่วยมะเร็งช่องปากเกือบทุกรายมีประวัติเคี้ยวหมากและสูบบุหรี่ควบคู่กัน

3. ลูกพีชป่า (หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น มะไฟจีน)
ผลไม้ชนิดนี้มีรสเปรี้ยวหวาน อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เนื้อผลมีใยอาหารสูง ช่วยการย่อยอาหารและการเผาผลาญของร่างกาย
โดยเฉพาะผลไม้สีส้มอย่าง “ลูกพลับ” จะมีธาตุเหล็กสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดและป้องกันภาวะโลหิตจาง อีกทั้งยังมีสารกรดที่ช่วยให้หลอดเลือดยืดหยุ่นและส่งเสริมการหมุนเวียนของเลือด รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่
อย่างไรก็ตาม แทนนินและเพกตินในผลไม้ชนิดนี้สามารถทำให้ลำไส้บีบตัวน้อยลง กินตอนท้องว่างอาจทำให้แน่นท้อง คลื่นไส้ หรือถึงขั้นลำไส้อุดตันได้
ที่สำคัญ ผลไม้ที่ยังไม่สุกจะมี “โซลานีน” ซึ่งเป็นพิษต่อไตและตับ ดังนั้นควรกินตอนอิ่มและเลือกผลที่สุกเท่านั้น ห้ามกินผลดิบ

4. มะเฟือง
มะเฟืองเป็นผลไม้เขตร้อนที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีน้ำตาลและกรดอินทรีย์ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและการเจริญเติบโตของร่างกาย อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงผิวและชะลอวัย
แต่ในมะเฟืองมีสารพิษตามธรรมชาติชื่อว่า “คารัมบอกซิน” ซึ่งเป็นสารพิษต่อระบบประสาท หากรับประทานมากหรือนำไปกินโดยไม่ระวัง สารนี้จะสะสมในไตและทำให้ไตเสื่อมได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคไตอยู่แล้ว อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นไตวาย
สารคารัมบอกซินไม่มีสารแก้พิษ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคไตจึงห้ามกินมะเฟืองเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอาการเป็นพิษรุนแรงและอันตรายต่อชีวิตได้