ปัญหากลิ่นตัวโดยเฉพาะบริเวณรักแร้ เกิดจากการทำงานของต่อมเหงื่ออะโพคริน (Apocrine gland) ที่ผลิตของเหลวซึ่งมีกรดไขมันและโปรตีน เมื่อสารเหล่านี้ถูกแบคทีเรียบนผิวหนังย่อยสลาย จะเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ยิ่งเหงื่อออกมาก กลิ่นก็จะยิ่งแรง ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจและรู้สึกอึดอัดในชีวิตประจำวัน

แต่รู้หรือไม่? “มะนาว” ผลไม้พื้นบ้านธรรมดาๆ กลับมีฤทธิ์กำจัดกลิ่นได้อย่างน่าทึ่ง!
กรดซิตริกในมะนาวช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเหงื่อ และยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นกาย อีกทั้งน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาวยังช่วยควบคุมการหลั่งเหงื่อของระบบประสาท ทำให้ผิวสะอาดและหอมสดชื่นตลอดวัน

วิธีแก้รักแร้มีกลิ่นด้วยมะนาวลูกเดียว

1. มะนาวสดเพียวๆ
   อาบน้ำให้สะอาด จากนั้นนำมะนาวผ่าครึ่ง ถูเบาๆ บริเวณรักแร้ทั้งสองข้างประมาณ 3 นาที ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก ทำต่อเนื่องทุกวัน 1 สัปดาห์ จะเห็นว่าผิวใต้วงแขนขาวขึ้นและกลิ่นหายไป
   

2. มะนาว + ขิง
   ขิงมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและลดกลิ่นได้ดี เมื่อผสมกับน้ำมะนาวจะเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น เพียงนำขิงบดละเอียดผสมกับน้ำมะนาว ทาให้ทั่วรักแร้ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำทุกวัน

3. มะนาว + เกลือทะเล
   สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่มีกลิ่นแรงและเหงื่อออกมาก มะนาวช่วยฆ่าเชื้อ ส่วนเกลือช่วยทำความสะอาดรูขุมขน เพียงนำมะนาวจุ่มเกลือแล้วถูเบาๆ บริเวณรักแร้ 3 นาที จากนั้นล้างออก
   

4. มะนาว + มันฝรั่งบด
   มันฝรั่งมีวิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดกลิ่นกาย ผสมมันฝรั่งบดกับน้ำมะนาว ทาทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก ทำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์
   

5. มะนาว + น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์
   ผสมน้ำมะนาวกับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วนเท่ากัน ใช้สำลีชุบแล้วทาบริเวณรักแร้ ทิ้งไว้ 30–40 นาที ก่อนล้างออก สูตรนี้ช่วยกำจัดแบคทีเรียและลดเหงื่อได้อย่างดีเยี่ยม
   

6. น้ำแข็งมะนาว
   แช่น้ำมะนาวในพิมพ์น้ำแข็ง ใช้ก้อนน้ำแข็งมะนาวถูบริเวณรักแร้ทุกวัน ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ลดกลิ่นและเหงื่อ พร้อมให้ความเย็นสดชื่น

เคล็ดลับเพิ่มเติม

• หลีกเลี่ยงการถูแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง

• ลดการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หัวหอม และอาหารมันๆ

• ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับของเสียและควบคุมการหลั่งเหงื่อ