ความตายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ทุกครอบครัวล้วนต้องเผชิญกับการสูญเสียคนที่รัก แต่หลังจากพิธีศพจบลง หลายครอบครัวอาจยังคงเก็บสิ่งของของผู้ล่วงลับไว้ ด้วยความรัก ความอาลัย หรือความผูกพันทางใจ อย่างไรก็ตาม ในความเชื่อของคนไทยและหลายวัฒนธรรมในเอเชีย มีข้อห้ามบางอย่างที่ควรรู้ไว้ โดยเฉพาะ “ของ 4 อย่าง” ที่ไม่ควรเก็บไว้ในบ้าน เพราะอาจนำพาความทุกข์ เคราะห์ร้าย หรือพลังงานลบมาสู่คนในครอบครัวและลูกหลานโดยไม่รู้ตัว

1. เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของผู้ล่วงลับ
เสื้อผ้า รองเท้า หรือของใช้ประจำตัว เช่น นาฬิกา หรือแว่นตา มักเป็นสิ่งที่ครอบครัวเก็บไว้ด้วยความคิดถึง แต่ตามความเชื่อโบราณ ของเหล่านี้ยังคงมีพลังของเจ้าของเดิมสถิตอยู่ หากเก็บไว้นานโดยไม่ได้ชำระล้างหรือทำบุญอุทิศให้ อาจทำให้เกิดพลังงานไม่ดีในบ้าน หรือแม้แต่ทำให้คนในบ้านรู้สึกเศร้า เหงา หรือฝันถึงผู้ล่วงลับอยู่บ่อยครั้ง

2. เตียงและหมอนที่ผู้เสียชีวิตเคยนอน
สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับของผู้ล่วงลับ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรเก็บไว้ เพราะตามความเชื่อแล้ว วิญญาณอาจยังวนเวียนอยู่บริเวณนั้น การนอนบนเตียงหรือใช้หมอนของผู้เสียชีวิตอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัว หรือมีฝันร้ายอยู่บ่อย ๆ หากต้องการเก็บไว้จริง ๆ ควรทำพิธีสะเดาะเคราะห์หรือทำบุญปลดปล่อยก่อนนำมาใช้อีกครั้ง

3. ของมีคม เช่น มีด กรรไกร หรือของใช้ในครัวที่ผู้ล่วงลับเคยใช้
ของมีคมเป็นสิ่งที่เชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับพลังงานหยินและความไม่สงบ หากเก็บไว้โดยไม่ทำพิธีชำระหรือบริจาคต่อไป อาจทำให้บ้านมีพลังงานด้านลบและเกิดการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว นอกจากนี้ ในบางความเชื่อยังถือว่าของมีคมเหล่านี้เป็นสื่อที่ทำให้วิญญาณกลับมาได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในบ้าน

4. ภาพถ่ายของผู้ล่วงลับที่ตั้งไว้ในห้องนอน
ภาพถ่ายเป็นสิ่งแทนความทรงจำที่มีค่า แต่การนำภาพของผู้เสียชีวิตไปตั้งไว้ในห้องนอนถือว่าไม่เหมาะสม เพราะเชื่อว่าอาจขัดขวางพลังชีวิตของผู้อยู่อาศัย ทำให้รู้สึกเศร้าหรือจิตใจไม่สงบ ควรนำภาพเหล่านั้นไปตั้งไว้ในห้องพระหรือมุมทำบุญแทน เพื่อให้เป็นการระลึกถึงด้วยความสงบและให้เกียรติผู้ล่วงลับอย่างเหมาะสม

การไม่เก็บของ 4 อย่างนี้ไว้ ไม่ได้หมายความว่าเราไม่รักหรือไม่คิดถึงผู้ที่จากไป ตรงกันข้าม การปล่อยวางและส่งต่อความระลึกถึงในรูปแบบของการทำบุญ การบริจาค หรือการสวดมนต์ อุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับต่างหาก คือวิธีที่ถูกต้องและสงบงามกว่า นอกจากจะช่วยให้ดวงวิญญาณของเขาไปสู่สุคติแล้ว ยังช่วยให้คนที่ยังอยู่มีจิตใจปลอดโปร่งและใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างสบายใจ

ในท้ายที่สุด ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านของพลังชีวิต การรู้จักวางสิ่งของและความทรงจำอย่างถูกต้อง เป็นการเคารพทั้งต่อผู้จากไปและต่อชีวิตของเราเอง ดังนั้น เมื่อมีคนในครอบครัวเสียชีวิต อย่าลืมศึกษาข้อควรระวังเหล่านี้ไว้ เพื่อให้ทั้งผู้ล่วงลับและคนที่ยังอยู่ได้อยู่อย่างสงบและมีความสุข