“มือ” เป็นอวัยวะที่เรามักใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการจับ ถือ เขียน หรือทำงาน แต่คุณอาจไม่รู้ว่า มือของเรานั้นสามารถบ่งบอกสุขภาพภายในร่างกายได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะในบางกรณี มืออาจส่งสัญญาณเตือนถึงโรคร้ายแรงอย่าง “มะเร็งตับ” ได้เช่นกัน หลายคนอาจไม่เคยสังเกตอาการผิดปกติเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นบนมือ และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่แท้จริงแล้ว อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่ไม่ควรมองข้าม

ต่อไปนี้คือ 3 ความผิดปกติที่มือ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงมะเร็งตับระยะเริ่มต้น ที่หลายคนมักมีแต่กลับไม่ใส่ใจ

1. ฝ่ามือแดงผิดปกติ (Palmar Erythema)
หนึ่งในสัญญาณเริ่มต้นของโรคตับคือฝ่ามือที่มีสีแดงผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณโคนนิ้วโป้งและนิ้วก้อย สาเหตุมาจากการที่ตับทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนสะสมในร่างกายมากเกินไป ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยบริเวณฝ่ามือขยายตัวจนเห็นได้ชัด ผู้ที่มีฝ่ามือแดงอาจไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือแสบ แต่สีของผิวจะต่างจากคนทั่วไปอย่างชัดเจน หากพบอาการนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจการทำงานของตับทันที

2. เล็บขาวหรือซีดลง (White Nails / Pale Nails)
เล็บที่เปลี่ยนสีเป็นขาวหรือซีดกว่าปกติ อาจบ่งบอกถึงภาวะตับเสื่อมเรื้อรังหรือโรคตับแข็งได้ เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดผิดปกติและระดับโปรตีนอัลบูมินในเลือดต่ำ ทำให้เล็บสูญเสียสีชมพูธรรมชาติไป บางคนอาจมีอาการเล็บเปราะหรือเล็บเป็นแนวขาว ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตับไม่สามารถผลิตโปรตีนและกรองของเสียได้ตามปกติ

3. อาการคันที่มือโดยไม่มีสาเหตุ (Unexplained Itching on Hands)
อาการคันเรื้อรังโดยเฉพาะบริเวณมือและแขน อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของมะเร็งตับหรือโรคตับอักเสบ ซึ่งเกิดจากการที่น้ำดีสะสมอยู่ในกระแสเลือด เนื่องจากตับไม่สามารถขับของเสียออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกลือน้ำดีเหล่านี้จะไประคายเคืองปลายประสาทใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการคันอย่างต่อเนื่อง แม้ไม่มีผื่นหรือรอยแดงปรากฏ

หลายคนเมื่อเห็นอาการเหล่านี้มักคิดว่าเป็นเพียงเรื่องผิวหนัง เช่น ภูมิแพ้ หรือการไหลเวียนของเลือดผิดปกติเล็กน้อย จึงละเลยที่จะตรวจสุขภาพ แต่แท้จริงแล้ว หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น เหนื่อยง่าย ตัวเหลือง ตาเหลือง เบื่ออาหาร หรือปวดชายโครงขวา นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคตับที่กำลังพัฒนาไปสู่ระยะอันตราย

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะการตรวจเลือดหาค่าการทำงานของตับ (Liver Function Test) เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือมีประวัติไวรัสตับอักเสบในครอบครัว การตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะต้นสามารถรักษาให้หายได้ในหลายกรณี

นอกจากนี้ การดูแลสุขภาพตับก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่น การลดการดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารมันหรือของทอด และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ตับทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

แม้อาการที่มืออาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับแพทย์แล้ว มันคือ “สัญญาณเตือนจากภายใน” ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมะเร็งตับเป็นโรคที่พัฒนาอย่างช้า ๆ และมักไม่แสดงอาการจนกระทั่งเข้าสู่ระยะท้าย การใส่ใจต่อความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตั้งแต่ตอนนี้ คือก้าวแรกของการป้องกันโรคร้ายในอนาคต

ดังนั้น หากคุณพบว่ามือของคุณเริ่มมีอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ามือแดง เล็บซีด หรือคันโดยไม่มีสาเหตุ อย่านิ่งนอนใจ รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตับทันที เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการสังเกตตัวเอง