“โรคตับ” เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่คนไทยจำนวนมากมักมองข้าม ทั้งที่จริงแล้วตับถือเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ขจัดสารพิษ สังเคราะห์โปรตีน และช่วยย่อยไขมัน แต่ในยุคปัจจุบัน พฤติกรรมการกินของคนไทยกลับเปลี่ยนไปมาก จนกลายเป็นสาเหตุสำคัญของโรค “ไขมันพอกตับ” ซึ่งหากปล่อยไว้นานโดยไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อาจพัฒนาไปเป็น “ตับแข็ง” หรือแม้กระทั่ง “มะเร็งตับ” ได้ในที่สุด

จากข้อมูลของกรมอนามัย พบว่าคนไทยกว่า 30% มีภาวะไขมันพอกตับโดยไม่รู้ตัว และสาเหตุหลัก ๆ มักเกิดจาก “การกินแบบผิด ๆ” ที่สะสมความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว

1. กินของทอด ของมันมากเกินไป
อาหารประเภทของทอด เช่น ไก่ทอด หมูทอด ปาท่องโก๋ หรือแม้แต่ของหวานทอด เป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ น้ำมันที่ใช้ทอดซ้ำ ๆ มีไขมันทรานส์สูง ซึ่งทำให้ไขมันในเลือดเพิ่มขึ้นและไปสะสมที่ตับโดยตรง เมื่อกินบ่อย ๆ จะทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับในที่สุด

2. ดื่มน้ำหวานและเครื่องดื่มชูกำลังเป็นประจำ
น้ำอัดลม ชาเย็น กาแฟเย็น หรือน้ำผลไม้บรรจุกล่องที่มีน้ำตาลสูง ล้วนทำให้ตับต้องทำงานหนักในการเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินให้เป็นไขมัน การดื่มเป็นประจำจึงเท่ากับเพิ่มภาระให้ตับจนเกิดภาวะ “ตับอ้วน” โดยไม่รู้ตัว

3. กินอาหารเค็มจัดและอาหารแปรรูป
อาหารไทยหลายชนิด เช่น ปลาร้า ปลาส้ม ไส้กรอก หมูยอ หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มีโซเดียมสูงมาก การบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็นทำให้ร่างกายเกิดการบวมน้ำ ความดันโลหิตสูง และส่งผลให้ตับต้องทำงานหนักในการกรองของเสีย

4. ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นศัตรูตัวร้ายของตับโดยตรง แอลกอฮอล์จะถูกตับเปลี่ยนเป็นสารพิษที่ทำลายเซลล์ตับ หากดื่มต่อเนื่องเป็นเวลานาน ตับจะเกิดการอักเสบ เสื่อมสภาพ และกลายเป็นตับแข็งในที่สุด แม้ดื่มเพียง “วันละนิด” ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้

5. กินดึกและไม่ออกกำลังกาย
คนไทยจำนวนมากนิยมกินมื้อดึก เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรืออาหารตามสั่งตอนก่อนนอน ซึ่งทำให้ร่างกายไม่มีเวลาย่อยและเผาผลาญพลังงานอย่างเพียงพอ พลังงานส่วนเกินเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันและไปสะสมที่ตับ ยิ่งไม่มีการออกกำลังกายร่วมด้วย ความเสี่ยงไขมันพอกตับยิ่งเพิ่มขึ้น

อาการของโรคไขมันพอกตับในระยะแรกมักไม่ชัดเจน
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการผิดปกติ ทำให้ไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นโรค จนกระทั่งมีอาการเหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือมีอาการแน่นชายโครงด้านขวา เมื่อตรวจพบก็อาจเข้าสู่ระยะตับแข็งแล้ว

วิธีดูแลและป้องกันโรคตับ ทำได้ไม่ยาก เริ่มจาก

• ลดอาหารทอดและมันเยิ้ม

• ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ

• ลดน้ำตาลและเกลือในอาหาร

• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

• ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที

• ตรวจสุขภาพประจำปีและตรวจการทำงานของตับ

หลายคนอาจคิดว่า “แค่กินของอร่อยนิดหน่อยคงไม่เป็นไร” แต่ความจริงแล้วนิสัยเล็ก ๆ เหล่านี้เมื่อสะสมเป็นเวลานาน คือจุดเริ่มต้นของโรคร้ายแรงที่คร่าชีวิตคนไทยปีละหลายพันคน

ดังนั้น หากไม่อยากให้ “ตับเต็มไปด้วยไขมัน” และเสี่ยงต่อ “ตับแข็งหรือมะเร็งตับ” ควรเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการกินตั้งแต่วันนี้ กินอย่างมีสติ เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แล้วร่างกายของคุณจะตอบแทนด้วยสุขภาพที่แข็งแรงและยืนยาว