นพ.หลิน เว่ยเหวิน แพทย์โรคหัวใจ ได้แชร์ในรายการ 健康好生活 ว่า เล่าถึงกรณีของข้าราชการหญิงคนหนึ่ง โดยข้าราชการหญิงคนนี้มาหาเขาครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 40 ปี สูงประมาณ 150 กว่าซม. และน้ำหนักเกิน 130 กก. เธอบอกว่าเครียดจากการทำงานและต้องพึ่งขนมหวานเพื่อบรรเทาความเครียด

วันหนึ่งเมื่อเธอไปวัดความดันที่เครื่องวัดความดันในหน่วยงานของรัฐ พบว่าความดันโลหิตพุ่งสูงถึงกว่า 200 พร้อมทั้งมีอาการเวียนหัวและคอแข็ง จึงตัดสินใจไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน

หลังจากการตรวจพบ ข้าราชการหญิงคนนี้มีอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะ และการทำงานของไตเริ่มผิดปกติ ร่วมกับระดับน้ำตาลในเลือดที่มีค่า HbA1c อยู่ที่ 69 และความดันโลหิตสูงเกิน 200 ต้องใช้ยาลดความดันถึง 5 ชนิดกว่าจะสามารถควบคุมความดันได้

หลังการรักษาหลายครั้ง เธอก็ยังไม่สามารถเลิกทานขนมหวานได้ และรู้สึกว่ามียาหลายชนิดที่ต้องทานเยอะเกินไป จนไม่ทานยา 2-3 เม็ด และในที่สุดก็หยุดไปหาหมอเพราะกลัวโดนดุ

นพ.หลิน เว่ยเหวิน เล่าต่อว่า เมื่อเขาเห็นข้าราชการหญิงคนนี้อีกครั้ง เธออายุ 30 ปีแล้ว และเข้าห้องฉุกเฉินด้วยอาการหอบเหนื่อย แน่นหน้าอก และไม่สบาย โดยความดันโลหิตอยู่ที่ 180-190 เขาตรวจพบว่าเธอเป็นเบาหวาน และเนื่องจากไตวายเฉียบพลัน ต้องฟอกไต รวมทั้งมีอาการหัวใจขยายตัว "เธอแค่ 30 ปี แต่หัวใจเหมือนคนอายุ 80 ปี"

นพ.หลิน เว่ยเหวิน แนะนำว่า หากต้องการลดน้ำตาลในการทำอาหาร สามารถใช้วัตถุดิบที่มีความหวานจากธรรมชาติแทนได้ เช่น หัวหอม แครอท กะหล่ำปลี หน่อไม้ ฟักทอง มันเทศ ข้าวโพด เผือก แตงโม แอปเปิล มะม่วง เสาวรส สตรอว์เบอร์รี กีวี ส้ม หรือแม้แต่ นมสด นมผง ผักชี สะระแหน่ พริกไทยดำ ก็สามารถนำมาทดแทนน้ำตาลได้อย่างเหมาะสม