กล้วยมีวิตามินซีสูง มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อย แต่เนื่องจากกล้วยสุกเร็วและเสียง่าย แทนที่จะทิ้งไป คุณสามารถนำกล้วยที่เน่าหรือช้ำมาใช้ประโยชน์ได้หลายวิธีดังนี้

1. หมักกล้วยเพื่อรดน้ำต้นไม้

เมื่อกล้วยเริ่มมีจุดดำและเน่า อย่าเพิ่งทิ้ง ให้นำเปลือกและเนื้อกล้วยแยกออก จากนั้นบดเนื้อกล้วยให้ละเอียดในภาชนะหรือเครื่องปั่น แล้วใช้พลาสติกแรปปิดฝาไว้ วางในที่อากาศถ่ายเทประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อให้เกิดการหมัก
เมื่อหมักเสร็จแล้ว ให้กรองด้วยตะแกรง เทน้ำหมักใส่ขวดรดน้ำ และเติมน้ำสะอาดเล็กน้อยเพื่อเจือจาง ก่อนนำไปใช้รดต้นไม้ได้ทันที

2. ใช้เปลือกกล้วยขัดของหนังให้เงางาม

กระเป๋าหนังหรือรองเท้าหนังเมื่อใช้ไปนาน ๆ มักจะหมอง หากต้องการให้กลับมาเงาเหมือนใหม่ สามารถใช้เปลือกกล้วยเช็ดได้
หลังจากเช็ดแล้ว หนังจะเงาเป็นพิเศษ และเพราะเปลือกกล้วยมีความนุ่ม จึงไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้พื้นผิวหนังเสียหาย

3. ใช้เปลือกกล้วยลดอาการคันจากยุงกัด

ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมักจะมีอาการบวมเมื่อถูกยุงกัด ให้นำเปลือกกล้วยวางทาบบริเวณที่คัน จะช่วยลดอาการคันและยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียได้

4. ทำปุ๋ยจากกล้วยและน้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูช่วยเร่งกระบวนการย่อยสลายของกล้วย และกลิ่นของกล้วยหมักกับน้ำส้มสายชูยังช่วยไล่แมลงได้ดี

• เตรียมกล้วย 2 ลูกหรือเปลือกกล้วยสด 3 เปลือก ล้างให้สะอาดและหั่นเล็ก ๆ

• เติมน้ำส้มสายชู 500 มิลลิลิตร และใส่ลงในขวดแก้วที่มีฝาปิดแน่น

• ปิดฝาให้สนิท หมักไว้ประมาณ 15 วัน โดยเปิดฝาระบายอากาศทุก 2–3 วัน เพื่อป้องกันแรงดันในขวด

• หลังจากนั้นสามารถใช้เป็นน้ำรดต้นไม้ โดยผสมน้ำในอัตรา 1 ส่วนปุ๋ย ต่อ 3 ส่วนน้ำ
  
  
  

5. หมักกล้วยกับน้ำอ้อยหรือน้ำตาลอ้อยทำปุ๋ยอินทรีย์

วิธีนี้จะช่วยให้โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และแร่ธาตุในกล้วยทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งเอนไซม์ในน้ำอ้อยยังช่วยเพิ่มสารอาหารให้กับต้นไม้

• เตรียมกล้วยสุกหรือเปลือกกล้วย 2 กิโลกรัม และน้ำตาลอ้อย 650 กรัม หรือใช้น้ำอ้อย 1 ลิตร

• ผสมน้ำตาลอ้อยกับน้ำ 6.5 ลิตร (หรือน้ำอ้อยกับน้ำ 6 ลิตร)

• หั่นกล้วยหรือเปลือกกล้วยให้ละเอียดแล้วปั่นรวมกับน้ำอ้อย

• เติมจุลินทรีย์ EM หรือเชื้อราไตรโคเดอร์มาได้หากมี

• หมักในขวดแก้วปิดฝาไว้ 1 เดือนหากใช้ EM หรือ 3 เดือนหากไม่มี

• เปิดฝาระบายอากาศทุก 3 วันเพื่อป้องกันการระเบิดจากแรงดัน

เมื่อใช้ ให้ผสมในอัตรา 1 ส่วนของน้ำหมักกล้วย ต่อ 4 ส่วนน้ำ ก่อนนำไปรดต้นไม้