น้ำต้มสุกถือเป็นสิ่งที่ทุกบ้านใช้เป็นประจำ ไม่ว่าจะดื่ม ชงกาแฟ หรือปรุงอาหาร แต่คุณรู้หรือไม่? พฤติกรรมเล็ก ๆ ที่เราคิดว่า “ไม่เป็นไร” ในการต้มน้ำ กลับอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเผยว่า คนไทยส่วนใหญ่มักมี “นิสัยต้มน้ำผิดวิธี” โดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจทำให้ร่างกายได้รับสารตกค้างโลหะหนักและไนเตรตที่เป็นพิษ จนเพิ่มความเสี่ยงของ โรคไตและมะเร็ง ได้

3 พฤติกรรมต้มน้ำผิดที่ควรเลี่ยง

1. ต้มน้ำซ้ำหลายครั้ง
การต้มน้ำเดิมซ้ำ ๆ จะทำให้แร่ธาตุและโลหะหนัก เช่น ตะกั่วและสารหนู เข้มข้นขึ้น เมื่อดื่มเข้าไปนาน ๆ อาจสะสมในร่างกายและก่อให้เกิดโรคร้ายได้

2. ใช้น้ำประปาโดยไม่กรอง
น้ำประปาในบางพื้นที่มีสารคลอรีนตกค้าง เมื่อต้มจนเดือด สารเหล่านี้อาจกลายเป็นสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและตับ

3. ใช้กาต้มน้ำหรือหม้อที่มีคราบหินปูน
คราบขาว ๆ ในกาต้มน้ำคือแคลเซียมและแมกนีเซียมคาร์บอเนต หากไม่ทำความสะอาดและต้มน้ำด้วยภาชนะนั้นซ้ำบ่อย ๆ สารเหล่านี้จะสะสมและอาจปนเปื้อนในน้ำดื่ม

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

• ควรใช้น้ำกรองหรือน้ำสะอาดก่อนต้มทุกครั้ง

• ห้ามต้มน้ำซ้ำเกิน 1 ครั้ง

• ล้างกาต้มน้ำหรือหม้อต้มอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

• หากใช้น้ำไฟฟ้า ควรเลือกแบบสแตนเลสคุณภาพดี ไม่มีสนิมหรือคราบตะกรัน

“น้ำต้มสุกไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป หากต้มน้ำผิดวิธี สารอันตรายที่ระเหยไม่หมดอาจย้อนกลับมาทำร้ายสุขภาพคุณเอง”
— แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

การต้มน้ำอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยให้ปลอดภัย แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากสารพิษสะสมในร่างกาย ที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงในอนาคต