หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงมีกลิ่นปากแรง ทั้งที่แปรงฟันวันละหลายครั้ง ใช้น้ำยาบ้วนปากราคาแพง หรือแม้แต่ไปหาหมอฟันบ่อย ๆ แต่กลิ่นปากก็ยังไม่หายเสียที

แพทย์ชี้ว่า หนึ่งในสาเหตุที่คนส่วนใหญ่มองข้ามคือ “ก้อนนิ่วในต่อมทอนซิล” หรือที่เรียกว่า นิ่วทอนซิล (Tonsil Stone) ก้อนเล็ก ๆ สีขาวเหลืองนี้อาจดูไม่อันตราย แต่จริง ๆ แล้วเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียจำนวนมาก ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของกลิ่นปากเรื้อรัง

🦠 ก้อนนิ่วทอนซิลเกิดขึ้นได้อย่างไร

ก้อนนิ่วทอนซิลเกิดจากเศษอาหาร เซลล์ที่ตายแล้ว และเมือกในช่องปากที่ไปติดอยู่ในร่องของต่อมทอนซิล เมื่อเวลาผ่านไป สารเหล่านี้จะจับตัวแน่นและแข็งขึ้นจนกลายเป็นก้อนเล็ก ๆ

คนที่มีปัญหาแพ้ฝุ่น มีน้ำมูกไหลบ่อย หรือมักหายใจทางปาก มีแนวโน้มจะเกิดนิ่วทอนซิลได้ง่ายกว่า เพราะช่องคอมักแห้งและมีแบคทีเรียสะสมมาก

😷 อาการที่ควรระวัง

• มีกลิ่นปากแม้จะแปรงฟันสะอาด

• รู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอหรือคันคอบ่อย ๆ

• เจ็บคอโดยไม่มีไข้

• มีจุดสีขาวเล็ก ๆ ที่ต่อมทอนซิล

• บางครั้งอาจไอหรือจามจนก้อนเล็ก ๆ มีกลิ่นแรงหลุดออกมา

หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์หู คอ จมูก (ENT) เพื่อตรวจและเอาก้อนนิ่วออกอย่างปลอดภัย

💡 วิธีป้องกันกลิ่นปากจากนิ่วทอนซิล

• ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อไม่ให้คอแห้ง

• แปรงฟันและลิ้นหลังอาหารทุกมื้อ

• ใช้น้ำเกลือกลั้วคอเป็นประจำ

• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

• พบทันตแพทย์หรือแพทย์ ENT เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ

 
แพทย์ย้ำว่า แม้นิ่วทอนซิลจะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจทำให้กลิ่นปากรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อในลำคอได้