รู้ไว้ดีกว่า! ทำไมถึง "ไม่ควร" พับผ้าห่ม-เก็บหมอน ก่อนเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม?

ความเข้าใจผิด... พับผ้าห่ม ก่อนเช็กเอาต์โรงแรม ไม่ใช่น้ำใจ แต่อาจทำให้ แขกคนถัดไป ต้องเจอเรื่องสกปรก!

หลายคนมีนิสัยชอบจัดห้องและจัดเตียงให้เรียบร้อยก่อนออกจากโรงแรม โดยเชื่อว่าเป็นการแสดงความเห็นอกเห็นใจและช่วยแบ่งเบาภาระงานของพนักงานทำความสะอาด ซึ่งอาจช่วยประหยัดเวลาได้ อย่างไรก็ตาม การกระทำเช่นนี้บางครั้งกลับทำให้พนักงานต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้น หรือที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ อาจทำให้แขกที่เข้าพักต่อจากคุณต้องเผชิญกับความไม่สะอาดโดยไม่รู้ตัว

ทำไมการทำเช่นนั้นถึงเป็นผลเสีย? พนักงานโรงแรมมีหน้าที่ต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนใหม่ทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าห้องพักสะอาดสำหรับแขกคนต่อไป ดังนั้น หากคุณปรับผ้าปูที่นอนให้เรียบ พับผ้าห่ม และจัดหมอนเข้าที่อย่างดี พนักงานก็ยังคงต้องเสียเวลาดึงออกมาเพื่อเปลี่ยนอยู่ดี

ทำไมการจัดเตียงเรียบร้อยเกินไปถึงสร้างปัญหา

สำหรับห้องที่มีเตียงหลายเตียง การที่ผู้เข้าพักคนก่อนจัดเตียงจนเรียบร้อยเกินไป อาจทำให้พนักงานเข้าใจผิดว่าเตียงนั้นไม่ได้ถูกใช้งาน จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนผ้าปูและปลอกหมอนใหม่ ในกรณีนี้ ความมีน้ำใจของคุณจะส่งผลเสียต่อแขกคนถัดไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะพวกเขาอาจต้องใช้ผ้าปูที่นอนและหมอนที่สกปรกโดยไม่รู้ตัว

สถานการณ์เดียวกับผ้าเช็ดตัว พนักงานโรงแรมจะสะดวกมาก หากคุณทิ้งผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้วลงในตะกร้า ทิ้งไว้ที่มุมห้องน้ำ หรือพาดไว้กับขอบอ่างอาบน้ำ เพราะการเก็บผ้าเช็ดตัวจะง่ายมาก แต่หากใช้เสร็จแล้วนำมาพับวางไว้อย่างเรียบร้อย จะทำให้ยากต่อการแยกแยะระหว่างผ้าที่ใช้แล้วกับผ้าที่ยังไม่ได้ใช้ ซึ่งอาจนำไปสู่การซักทำความสะอาดผ้าทั้งหมดโดยไม่จำเป็น

วิธีช่วยงานแม่บ้านที่ถูกต้อง ก่อนเช็กเอาต์

หากคุณต้องการช่วยแบ่งเบาภาระงานของพนักงานทำความสะอาดอย่างแท้จริง สามารถทำได้โดยการช่วยทิ้งขยะให้ถูกที่ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้ว นำรีโมทโทรทัศน์และรีโมทเครื่องปรับอากาศวางคืนที่เดิม

นอกจากนี้ การถอดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และนำไปรวมกับผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้วจะช่วยอำนวยความสะดวกอย่างมาก ห้องที่ไม่รกไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อพนักงานทำความสะอาดเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมองเห็นสิ่งของส่วนตัวที่อาจถูกลืมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย