คนต่างชาติใช้งานกาต้มน้ำไฟฟ้าน้อยกว่าประเทศในเอเชีย แม้ว่าจะสะดวกมาก

กาต้มน้ำไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ใช้ในครัวเรือนที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยและประเทศในเอเชียหลายประเทศ แต่ในบางประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา กลับไม่ค่อยมีการใช้งานแพร่หลาย

กาต้มน้ำไฟฟ้ามีข้อดีคือให้กำลังไฟสูงและแผ่นทำความร้อนที่สามารถส่งความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำเดือดภายในไม่กี่นาที สามารถใช้ต้มน้ำสำหรับอาบน้ำ ชงชา กาแฟ และใช้ในงานอื่นๆ

ทำไมกาต้มน้ำไฟฟ้าถึงไม่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ?

1. ความแตกต่างของแรงดันไฟฟ้า

ในสหรัฐอเมริกา แรงดันไฟฟ้าภายในบ้านอยู่ที่ 100 - 127V ในขณะที่ในอังกฤษและประเทศอื่นๆ แรงดันไฟฟ้าส่วนใหญ่อยู่ที่ 220 - 240V

แรงดันไฟฟ้าที่ต่ำกว่าหมายความว่ากาต้มน้ำไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาจะไม่สามารถต้มน้ำให้เดือดได้เร็วเท่ากับกาต้มน้ำในประเทศที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงกว่า ซึ่งทำให้การใช้งานกาต้มน้ำไฟฟ้าไม่สะดวกเท่าที่ควร

2. ความแตกต่างในพฤติกรรมการบริโภค

ในประเทศแถบเอเชีย เช่น เวียดนาม ไทย และจีน ผู้คนมีนิสัยชอบดื่มชา ซึ่งต้องใช้น้ำร้อนบ่อยๆ ดังนั้นการมีกาต้มน้ำไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

แต่ในประเทศแถบตะวันตก ผู้คนส่วนใหญ่นิยมดื่มกาแฟมากกว่า โดยมักใช้เครื่องชงกาแฟแทนกาต้มน้ำไฟฟ้า ซึ่งสะดวกกว่าสำหรับพวกเขา

ข้อควรระวังในการใช้กาต้มน้ำไฟฟ้า

1. หลีกเลี่ยงการต้มน้ำติดต่อกันหลายครั้ง

การต้มน้ำซ้ำๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้แผ่นทำความร้อนในกาต้มน้ำร้อนเกินไป และอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือไฟฟ้าลัดวงจร

2. ไม่เทน้ำออกทั้งหมดทันทีหลังจากน้ำเดือด

แม้ว่ากาต้มน้ำจะตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือดแล้ว แต่แผ่นทำความร้อนยังคงมีความร้อนสะสมอยู่ หากเทน้ำออกหมดในทันที อาจทำให้แผ่นทำความร้อนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรเหลือน้ำไว้อย่างน้อย 15 มิลลิลิตร เพื่อป้องกันปัญหานี้

3. ปิดฝาให้สนิทขณะต้มน้ำ

หากไม่ปิดฝาขณะต้มน้ำ จะทำให้ต้องใช้เวลานานขึ้นและสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น นอกจากนี้ หากกาต้มน้ำไม่ได้ปิดฝา อาจทำให้สวิตช์ตัดไฟอัตโนมัติทำงานผิดปกติและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้

4. ไม่เติมน้ำต่ำกว่าขีดขั้นต่ำหรือล้นเกินขีดสูงสุด

ในกาต้มน้ำไฟฟ้า จะมีสัญลักษณ์บอกระดับน้ำขั้นต่ำ (Min) และสูงสุด (Max) หากเติมน้ำน้อยเกินไป อาจทำให้ระบบตัดไฟอัตโนมัติทำงานผิดพลาด และเสี่ยงที่แผ่นทำความร้อนจะไหม้

ในทางกลับกัน หากเติมน้ำมากเกินไป น้ำอาจเดือดจนล้นออกมา ทำให้ส่วนประกอบภายในเสียหาย หรืออาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร

5. ถอดปลั๊กออกเมื่อไม่ได้ใช้งาน

หลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ควรถอดปลั๊กออกจากเต้าเสียบ เพราะสวิตช์อาจมีปัญหาหรืออาจมีสิ่งของไปกดโดนโดยไม่ตั้งใจ ทำให้กาต้มน้ำทำงานโดยไม่รู้ตัว

6. หลีกเลี่ยงการปล่อยให้น้ำค้างอยู่ในกาต้มน้ำเป็นเวลานาน

หากปล่อยให้น้ำค้างอยู่ในกาต้มน้ำเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดคราบตะกรันสะสม ซึ่งจะทำให้แผ่นทำความร้อนเสื่อมสภาพและทำให้กาต้มน้ำทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ

7. ทำความสะอาดกาต้มน้ำเป็นประจำ

เมื่อใช้กาต้มน้ำไปนานๆ อาจมีคราบตะกรันเกาะอยู่ด้านใน หากไม่ได้ทำความสะอาด อาจทำให้กาต้มน้ำต้มน้ำช้าลงและทำให้ตัวเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิทำงานผิดพลาด ควรล้างกาต้มน้ำเป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งาน