ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ พฤติกรรมที่ดูเหมือนง่ายอย่างการดื่มน้ำในตอนเช้า หากทำไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดผลเสียแทนที่จะเป็นผลดี โดยเฉพาะในกลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงอายุ

หลายคนเชื่อว่าการดื่มน้ำหนึ่งแก้วทันทีหลังตื่นนอนช่วยขับสารพิษ กระตุ้นระบบย่อยอาหาร และทำความสะอาดลำไส้ แต่ตามที่นายแพทย์หลิว เสี่ยวฉ่วย ผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Sohu การดื่มน้ำขณะท้องว่างในตอนเช้าโดยไม่ถูกวิธี อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย และบางครั้งทำให้รู้สึกไม่สบายยิ่งกว่าการงดอาหารเช้าเสียอีก

บางคนหลังตื่นนอนมักรู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ใจสั่น หรือมือเท้าเย็น ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าเป็นอาการของโรค แต่จริง ๆ แล้วอาจเกิดจากการดื่มน้ำตอนเช้าไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีระบบย่อยอาหารไวต่อสิ่งกระตุ้น

นายแพทย์หลิวกล่าวว่า ระหว่างเวลา 05.00–07.00 น. เป็นช่วงที่ลำไส้ใหญ่ทำงานอย่างเข้มข้น ร่างกายเริ่มขับสารพิษ การดื่มน้ำอย่างถูกวิธีในช่วงเวลานี้สามารถช่วยให้ขับถ่ายได้ดีและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่ถ้าดื่มน้ำที่เย็นจัด เร็วเกินไป หรือมากเกินไป อาจทำให้ระบบย่อยอาหาร “ช็อกจากอุณหภูมิ” จนทำงานผิดปกติได้

ข้อผิดพลาดที่หลายคนมักทำ ได้แก่

ดื่มน้ำเย็นทันที 500 มิลลิลิตรหลังตื่นนอน: เสี่ยงต่อการทำร้ายกระเพาะอาหารและลดพลังหยางของร่างกาย

แปรงฟันไปดื่มน้ำไป: แบคทีเรียที่สะสมในปากตลอดคืนอาจไหลลงสู่กระเพาะและทำลายระบบย่อยอาหาร

ผสมน้ำผึ้ง มะนาว หรือ น้ำส้มสายชู ดื่มตอนท้องว่าง: อาจระคายเคืองกระเพาะ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหากระเพาะอาหาร

เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและวัยกลางคน แพทย์หลิวแนะนำให้ทำตาม 5 ขั้นตอนหลังตื่นนอนดังนี้

ลุกจากที่นอนอย่างช้า ๆ ไม่ควรลุกพรวดพราด
หลังตื่น ควรนอนนิ่งสักครู่ จากนั้นเอียงตัวข้างประมาณ 30 วินาที แล้วค่อย ๆ ลุกนั่งภายใน 3 นาที วิธีนี้ช่วยให้ความดันโลหิตคงที่ ลดอาการวิงเวียน โดยเฉพาะในผู้ที่มีความดันต่ำหรือโรคหัวใจ

แปรงฟันด้วยน้ำอุ่นเพื่อทำความสะอาดช่องปาก
หลังผ่านไปทั้งคืน แบคทีเรียในปากจะเพิ่มขึ้น การแปรงฟันช่วยกำจัดเชื้อเหล่านั้น และน้ำอุ่นยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำลาย เตรียมพร้อมสำหรับการย่อยอาหาร

ดื่มน้ำอุ่นประมาณ 200 มิลลิลิตร หลังแปรงฟัน
เลือกน้ำอุ่นที่อุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกาย ดื่มทีละอึกช้า ๆ จะช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยให้ลำไส้ทำงานดีและขจัดของเสียออกจากร่างกาย

ขยับร่างกายเบา ๆ เพื่อปลุกพลังงานในร่างกาย
ควรยืดเส้น ยกแขน หมุนคอ หมุนเอว พร้อมกับการหายใจลึก ๆ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ลดความเสี่ยงต่อข้อยึดหรือลื่นล้มตอนเช้า

รับประทานอาหารเช้าให้ครบ หลีกเลี่ยงของเย็นและของมัน
มื้อเช้าเปรียบเสมือน “พลังงานแรกของวัน” ควรรับประทานอาหารเบา ๆ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น โจ๊ก ไข่ ธัญพืช หรือผัก จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น และควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด กาแฟ หรือชาเข้มในขณะท้องว่าง

น้ำหนึ่งแก้วในตอนเช้าอาจเป็นได้ทั้ง “ยาวิเศษ” หรือ “ภาระต่อร่างกาย” ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณดื่ม โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การดื่มน้ำในเวลาที่เหมาะสมและด้วยวิธีที่ถูกต้อง พร้อมกับการใช้ชีวิตอย่างสมดุล จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงอย่างรอบด้าน

แทนที่จะรีบดื่มน้ำเย็นหรือข้ามมื้อเช้า ควรใช้เวลาในชั่วโมงแรกของวันเพื่อดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี นี่คือจุดเริ่มต้นสำคัญของวันใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและสุขภาพที่ดี