วิธีกินกล้วยต้มเพื่อลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

กล้วยต้มให้พลังงานต่ำ แต่มีใยอาหารสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

เพียงแค่รู้วิธีกินให้ถูกต้อง อาหารพื้นบ้านจานนี้สามารถช่วยป้องกันและบรรเทาได้หลายโรค

กล้วยต้มเป็นอาหารพื้นบ้านที่หลายคนชื่นชอบ แทนที่จะกินกล้วยดิบหรือกล้วยสุกแบบเดิม การนำมาลวกหรือต้มจะช่วยเพิ่มรสสัมผัสที่แตกต่าง อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีกว่า เพราะความร้อนช่วยทำลายผนังเซลล์ของกล้วย ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระได้ง่ายขึ้น

การกินกล้วยต้มไม่เพียงช่วยเติมพลังงานให้ร่างกาย แต่ยังมีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและส่งเสริมการลดน้ำหนักอีกด้วย

---

🍌 ควรกิน “กล้วยดิบต้ม” จะดีกว่า

กล้วยต้มขนาดกลางให้พลังงานประมาณ 105 กิโลแคลอรี ปราศจากไขมันและคอเลสเตอรอลโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะกล้วยดิบต้มจะให้ประโยชน์มากกว่า เพราะมี “แป้งทนต่อการย่อย” (resistant starch) อยู่ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ทำหน้าที่คล้ายใยอาหารในลำไส้

แป้งชนิดนี้ไม่ถูกย่อยในลำไส้เล็ก แต่จะลงไปถึงลำไส้ใหญ่ กลายเป็นอาหารให้กับจุลินทรีย์ที่ดีในระบบทางเดินอาหาร

นอกจากดีต่อการย่อยแล้ว ยังช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และช่วยควบคุมปริมาณแคลอรีโดยรวมได้

⚡ กล้วยต้มยังมีโพแทสเซียมสูง

โพแทสเซียมช่วยรักษาสมดุลอิเล็กโทรไลต์ มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ

ในช่วงลดน้ำหนัก การได้รับโพแทสเซียมอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้ราบรื่น ป้องกันอาการอ่อนเพลียและตะคริว

นอกจากนี้ กล้วยต้มยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย

---

🕒 ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกินกล้วยต้ม

1. กินก่อนออกกำลังกาย
กล้วยต้มให้คาร์โบไฮเดรตตามธรรมชาติ ทั้งน้ำตาลเชิงเดี่ยว (ซูโครส กลูโคส ฟรุกโทส) และแป้ง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของกล้ามเนื้อระหว่างออกกำลังกาย การกินกล้วยต้มก่อนออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

นอกจากนี้ โพแทสเซียมในกล้วยยังช่วยรักษาสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ ป้องกันกล้ามเนื้ออ่อนล้าและตะคริวระหว่างการออกกำลังกาย

2. กินหลังออกกำลังกาย
หลังจากออกกำลังกาย ร่างกายต้องการฟื้นฟูพลังงานและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ไกลโคเจน กล้วยต้มมีคาร์โบไฮเดรตที่ช่วยเติมไกลโคเจนให้กลับคืนมา พร้อมทั้งให้พลังงานเพื่อฟื้นฟูและสร้างกล้ามเนื้อใหม่

กล้วยยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อและเร่งการฟื้นตัว

3. กินเป็นของว่างมื้อเย็น
กล้วยต้มสามารถเป็นของว่างยามค่ำที่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีแมกนีเซียมและทริปโตเฟน ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานราบรื่น และช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น