สามเหลี่ยมอะแลสกา ดินแดนลึกลับที่ผู้คนมากมายหายตัวไปโดยไร้ร่องรอย

ท่ามกลางป่าลึกและเทือกเขาน้ำแข็งทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่หนึ่งที่ถูกขนานนามว่า “สามเหลี่ยมอะแลสกา” ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้คน เครื่องบิน และเรือจำนวนมากหายตัวไปอย่างลึกลับตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

สามเหลี่ยมแห่งนี้ทอดยาวจากเมืองบาร์โรว์ทางตอนเหนือสุดของรัฐอะแลสกา ลงมาถึงเมืองแองเคอเรจ และต่อไปยังเมืองหลวงจูโน พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็ง ป่าทึบ และทุนดราที่หนาวเหน็บ แม้จะอันตรายแต่นักผจญภัยจำนวนมากก็ยังเลือกเดินทางเข้ามา และหลายคนไม่เคยกลับออกไปอีกเลย

ในแต่ละปีมีการค้นหาและกู้ภัยหลายร้อยครั้ง แต่หน่วยกู้ภัยแทบไม่เคยพบร่องรอยของเหยื่อ ไม่ว่าจะยังมีชีวิตหรือเสียชีวิต

เหตุการณ์ที่ทำให้สามเหลี่ยมอะแลสกาเริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2515 เมื่อเครื่องบินที่มีนายเฮล บ็อกส์ สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกา หายไปขณะบินระหว่างแองเคอเรจกับจูโน รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ระดมเครื่องบินทหารและพลเรือนกว่า 90 ลำออกค้นหาในพื้นที่กว่า 8 ล้านเฮกตาร์ตลอด 39 วัน แต่ไม่พบแม้แต่ชิ้นส่วนเล็ก ๆ หรือศพของผู้โดยสารเลย

เหตุการณ์นี้ทำให้สภาคองเกรสต้องออกกฎหมายบังคับให้เครื่องบินพลเรือนทุกลำติดตั้งระบบระบุตำแหน่งฉุกเฉิน ต่อมาในปี พ.ศ. 2533 เครื่องบินขนาดเล็ก Cessna 340 ที่บรรทุกนักบินและผู้โดยสาร 4 คนก็หายไปอีกโดยไม่มีสัญญาณใด ๆ เช่นเดียวกับกรณีในปี พ.ศ. 2493 ที่เครื่องบินทหารบรรทุกผู้โดยสาร 44 คนหายไปโดยไร้ร่องรอย

สถิติระบุว่ามีผู้สูญหายในบริเวณนี้มากกว่า 16,000 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 4 คนต่อประชากร 1,000 คน ซึ่งสูงกว่าส่วนอื่นของประเทศถึงสองเท่า

นักวิทยาศาสตร์บางส่วนเชื่อว่าสาเหตุหลักมาจากภูมิประเทศที่ยากลำบากและสภาพอากาศสุดขั้ว ภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากมีโพรงและช่องว่างภายในคล้ายรังผึ้ง สามารถกลืนร่างคนหรือเครื่องบินได้ทั้งลำ เมื่อหิมะตกหนัก สิ่งเหล่านี้อาจกลายเป็นหลุมฝังศพที่ธรรมชาติสร้างขึ้นโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ

ในขณะที่ชาวพื้นเมืองของอะแลสกากลับมีคำอธิบายอีกแบบ พวกเขาเชื่อในตำนานของ “คุชทากา” หรือที่หมายถึง “มนุษย์นากบนบก” ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ถูกเรียกว่า “บิ๊กฟุตแห่งอะแลสกา” ตามตำนาน คุชทากาสามารถแปลงร่างเป็นคนที่คุณรักหรือเด็ก เพื่อหลอกเหยื่อให้เข้าใกล้แม่น้ำ ก่อนจะฆ่าหรือเปลี่ยนให้กลายเป็นคุชทากาตัวใหม่

แม้นักวิทยาศาสตร์จะอธิบายด้วยเหตุผลทางธรรมชาติ แต่จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีหลักฐานใดสามารถไขปริศนาได้ว่าทำไมผู้คน เครื่องบิน และเรือจำนวนมากถึงหายไปโดยไร้ร่องรอย

สามเหลี่ยมอะแลสกา ยังคงเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ลึกลับและน่ากลัวที่สุดในโลก ที่ซึ่งธรรมชาติ ความตาย และตำนานโบราณดูเหมือนจะมาบรรจบกันในที่เดียว.