ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองสารพิษ ช่วยย่อยไขมัน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่หลายคนไม่รู้เลยว่า “ตับ” ของตนเองอาจกำลังเจ็บป่วยอยู่ เพราะโรคตับมักไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก จนกระทั่งเริ่มส่งสัญญาณเตือนผ่านร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณ “ขาและเท้า” ที่หลายคนมักมองข้าม

1. ขาบวม เท้าบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ

เป็นหนึ่งในสัญญาณสำคัญของภาวะตับทำงานผิดปกติ เนื่องจากเลือดไหลเวียนไม่ดีและของเหลวสะสมในร่างกายมากเกินไป

2. ผิวหนังและเล็บซีด

หากตับไม่สามารถสร้างโปรตีนและเม็ดเลือดได้เพียงพอ จะทำให้ผิวดูเหลืองซีดและเล็บเปราะ

3. เส้นเลือดฝอยเห็นชัดที่ขาหรือหน้าอก

ตับที่อ่อนแอจะทำให้เส้นเลือดขยายตัวมากขึ้น ส่งผลให้เห็นเส้นเลือดฝอยชัดขึ้น

4. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบ่อย

ตับที่เสียหายจะไม่สามารถสะสมพลังงานในรูปไกลโคเจนได้ดี ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียและปวดกล้ามเนื้อ

5. คันตามผิวหนังโดยไม่มีผื่น

เกิดจากการสะสมของเกลือน้ำดีในกระแสเลือด ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตับกำลังทำงานหนัก

6. มีรอยฟกช้ำง่าย

ตับมีหน้าที่ผลิตโปรตีนที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว หากตับทำงานผิดปกติ ร่างกายจะช้ำง่ายแม้เพียงโดนกระแทกเบา ๆ

7. ท้องอืดแน่นบ่อย

เกิดจากการสะสมของน้ำในช่องท้อง ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของโรคตับแข็ง

8. เบื่ออาหาร น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว

เมื่อตับไม่สามารถย่อยและดูดซึมไขมันได้ดี จะทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานและน้ำหนักลดลง

9. ปัสสาวะสีเข้ม

บ่งบอกว่ามีสารบิลิรูบินในเลือดสูง ซึ่งเกิดจากการทำงานผิดปกติของตับ

10. เหนื่อยง่าย

ตับไม่สามารถเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงานได้ตามปกติ ทำให้รู้สึกอ่อนแรง

11. ผิวเหลือง ตาเหลือง

เป็นอาการที่หลายคนรู้จักดีว่าเป็นสัญญาณของโรคดีซ่าน ซึ่งเกิดจากตับเสื่อม

12. ปวดชายโครงขวา

บริเวณนี้คือที่อยู่ของตับ หากรู้สึกแน่นหรือเจ็บบ่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

---

สรุป

ตับคืออวัยวะเงียบที่ไม่แสดงอาการจนกว่าจะสายเกินไป หากคุณมีอาการดังกล่าวแม้เพียงบางข้อ ควรรีบตรวจสุขภาพตับโดยด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้โรคร้ายลุกลาม การดูแลตับทำได้ง่ายเพียงหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ลดของมัน และพักผ่อนให้เพียงพอ

สุขภาพดีเริ่มต้นจาก “การฟังร่างกายของคุณ” — อย่าปล่อยให้ตับต้องส่งสัญญาณเตือนซ้ำ ๆ